World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 20, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและไม่เชื่อมั่นว่ามาตรการของสหภาพยุโรป (อียู) จะแข็งแกร่งพอที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวรัฐบาลเยอรมนีออกกฎห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ 10 แห่งของเยอรมนี ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้สหรัฐนำมาตรการดังกล่าวกลับมาใช้อีก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 66.58 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 10,444.37 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 5.75 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 1,115.05 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 18.89 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 2,298.37 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะดีมานด์พลังงานหดตัวในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในยุโรป

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 69.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.95 - 69.06 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลต่อการร่วงลงติดต่อกันหลายวันของตลาดหุ้น ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงินในยุโรป ขณะที่สัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเยอรมนีบังคับใช้กฎห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ 10 แห่งของเยอรมนี

สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงง 21.50 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,193.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,228.20 - 1,186.60 ดอลลาร์

-- ค่าเงินยูโรทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดในตลาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการทุ่มซื้อสกุลเงินยูโร เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของยูโร อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายหลังจากรัฐบาลเยอรมนีบังคับใช้กฎห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นของ 10 บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.72% แตะที่ 1.2390 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2180 ยูโร/ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.77% แตะที่ 1.4411 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4301 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.520 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.120 เยน/ดอลลาร์ แต่ดีดขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1516 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1495 ฟรังค์/ดอลลาร์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากรัฐบาลเยอรมนีบังคับใช้กฎห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นบริษัทการเงินรายใหญ่บางแห่งและตราสารหนี้ของรัฐบาล ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกในตลาด

ดัชนี FTSE ร่วงลง 149.26 จุด หรือ 2.8% ปิดที่ 5,158.08 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ