นิวซีแลนด์จ่อลดภาษีเงินได้-ขึ้นภาษีการค้า มุ่งกระตุ้นการออมภาคครัวเรือน

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 20, 2010 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นิวซีแลนด์เตรียมปรับลดภาษีเงินได้และขึ้นภาษีการค้าเพื่อกระตุ้นการออมภาคครัวเรือน ตั้งเป้าบรรเทาความผันผวนทางเศรษฐกิจ และลดระดับความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะ

นายบิล อิงลิช รัฐมนตรีคลังนิวซีแลนด์แถลงงบประมาณประจำปีในวันนี้ว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีการค้าจากเดิมที่ 12.5% เป็น 15% ซึ่งนับเป็นการขึ้นภาษีการค้าครั้งแรกในรอบ 20 ปี ขณะที่ภาษีเงินได้จะถูกปรับลดลงเหลือ 33% จากระดับ 38% โดยการเก็บภาษีในอัตราใหม่นี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

โดยขุนคลังนิวซีแลนด์ต้องการลดตัวเลขหนี้สินต่างประเทศซึ่งมีสัดส่วนราว 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำงานมากขึ้นและกระตุ้นการลงทุน ซึ่งเป้าหมายของบิลสอดคล้องไปในทางเดียวกับนายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ที่ชี้ถึงความจำเป็นในการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณและลดการพึ่งพาเงินกู้ต่างชาติ

นายอิงลิชชี้ว่า ปัญหาใหญ่ปัญหาเดียวของนิวซีแลนด์ที่สร้างความผันผวนทางเศรษฐกิจในขณะนี้คือ ปัญหาหนี้ต่างประเทศก้อนใหญ่ที่กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์ความผันผวนในนิวซีแลนด์จะยิ่งทวีความรุนแรงอันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลก่อหนี้ด้วยการกู้เงินจากต่างชาติในอีก 5 ปีข้างหน้า

ขณะเดียวกัน นายอิงลิชยังคาดการณ์ว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะจะมีสัดส่วนราว 27% ของจีดีพีในปี 2558 จากระดับ 14% ในปีนี้ โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะลดหนี้สินลงมาให้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 20% ภายในปี 2565 และคาดว่ายอดขาดดุลเงินสดจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 จากระดับ 9.1 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ในปีงบประมาณปัจจุบัน และดุลดำเนินงานจะยังคงอยู่ในภาวะขาดดุลไปจนถึงปี 2558

ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องวินัยการคลังเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ จากบทเรียนของปัญหาขาดดุลงบประมาณในกรีซที่สะท้อนถึงวิกฤตหนี้สาธารณะในหลายประเทศของยุโรปจนเป็นที่มาของการระดมเงินช่วยเหลือมูลค่า 1.10 แสนล้านยูโร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ