สำนักงานสถิติของไต้หวันเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 13.27% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2521 เนื่องจากการส่งออกที่ทะยานขึ้น ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางไต้หวันอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
พร้อมกันนี้ สำนักงานสถิติยังได้ยกระดับคาดการณ์เศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2553 นี้เป็นขยายตัว 6.14% จากเดิมที่คาดว่าจะโตเพียง 4.72%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไต้หวันพึ่งพาการส่งออกอย่างมาก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งการส่งออกที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งก็กระตุ้นให้หลายบริษัท อาทิ บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ TSMC ผู้รับจ้างผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก เพิ่มการลงทุนและจ้างพนักงานเพิ่ม ส่งผลให้อัตราว่างงานของไต้หวันลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งนี้ จะผลักดันให้แบงก์ชาติเริ่มระบายเงินสดออกจากระบบการเงินเพื่อป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่ แต่ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนในยุโรปก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางไต้หวันระงับการขึ้นดอกเบี้ยเอาไว้ก่อน หลังจากที่ธนาคารได้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1.25% มาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุน