ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่ง จากกระแสคาดจนท.การเงินยุโรปแทรกแซงตลาด

ข่าวต่างประเทศ Friday May 21, 2010 07:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ที่ว่าเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของยุโรปอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการร่วงลงของสกุลเงินยูโร อย่างไรก็ตาม ยูโรฟื้นตัวในกรอบที่จำกัดและยังถูกกดดันจากแรงขายในระหว่างวัน หลังจากนางอังเกล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า สกุลเงินยูโรอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2507 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.2427 ยูโร/ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.51% สู่ระดับ 1.4379 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4452 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 2.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 89.600 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 91.630 เยน/ดอลลาร์ และขยับขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1500 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1493 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 3.26% แตะที่ 0.8200 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.8476 สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.86% แตะที่ 0.6661 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6787 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่การเงินของยุโรปจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเข้าซื้อยูโร เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของยูโร หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีข่าวลือแพร่สะพัดในตลาดว่าธนาคารกลางยุโรป ร่วมกับธนาคารกลางอีกหลายแห่ง จะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของยูโร เหมือนกับที่เคยดำเนินการในปี 2543

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากนางแมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า ยุโรปยังคงเผชิญกับบททดสอบที่หนักหน่วง และสกุลเงินยูโรอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก ซึ่งหากยุโรปไม่สามารถแก้ปัญหานี้ ผลที่ตามมาจะรุนแรงจนยากจะประเมินได้

"ยุโรปกับเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี การพลิกฟื้นค่าเงินยูโรถือเป็นงานครั้งประวัติศาสตร์ของเรา หากค่าเงินยูโรล้ม ยุโรปก็จะล้มด้วย" นางแมร์เคลกล่าว

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ลดลง 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

รวมทั้งรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 471,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ และเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ