เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การประชุมเจ้าหน้าที่รัฐบาลของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) จะมีการหารือถึงการเพิ่มมาตรการรับมือวิกฤตหนี้สินที่กำลังแผ่ขยายไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากที่นายนาโอโตะ คัง รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายต้องจับตาความเคลื่อนไหวของสกุลเงินอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประเมินว่าสกุลเงินแข็งค่ามากเกินไปหรือไม่ ขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ หลังจากที่นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียเตรียมเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ณ เวลา 11:21 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรไต่ระดับขึ้นแตะที่ 1.2567 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2487 ดอลลาร์/ยูโรที่ตลาดนิวยอร์กวานนี้ และเพิ่มขึ้นแตะระดับ 113.40 เยน/ยูโร จากระดับ 111.99 เยน/ยูโร
ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้น 0.8% แตะที่ 82.37 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังร่วงลงไปอยู่ที่ 80.73 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลยุโรปอาจหารือถึงการเพิ่มมาตรการสกัดกั้นวิกฤตการณ์การเงินในครั้งนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อค่าเงินยูโร
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังเยอรมนีเตรียมเสนอแผนการ 9 ข้อเพื่อป้องกันมิให้วิกฤตการเงินที่ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดดุลงบประมาณของกรีซเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกในอนาคต ซึ่งแผนการดังกล่าวได้ระบุถึงข้อเรียกร้องให้เร่งการปรับลดงบประมาณ การเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับประเทศที่ละเมิดกฎที่ได้ตกลงกันไว้