นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการขยายตลาดข้าวของไทยในต่างประเทศ ว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศปรับแผนการทำตลาดข้าวไทยใหม่ โดยเฉพาะตลาดที่บริโภคข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งจะต้องผลักดันให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นคุณภาพข้าวไทย ในฐานะที่เป็นข้าวคุณภาพชั้นดีเลิศ หรือ พรีเมี่ยม เกรด และเป็นข้าวที่ไม่มีคู่แข่งรายอื่นผลิตได้ มีเพียงไทยประเทศเดียว เพื่อรักษาตลาดข้าวหอมมะลิของไทยให้มีอัตราการขยายตัวในด้านการส่งออกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ได้ขอให้ปรับแผนการเจาะตลาดลูกค้าระดับบนนอกเหนือจากการขายเพียงข้าวหอมมะลิไทย โดยให้เพิ่มข้าวพรีเมี่ยม เกรด ชนิดอื่น ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และข้าวที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ จีไอ เช่น ข้าวสังข์หยด ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ ข้าวกาบดำ ข้าวขาวกอเดียว ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวเหลืองปะทิว เพราะข้าวเหล่านี้ ถือเป็นข้าวชนิดพิเศษของไทยที่แต่ละปีผลิตได้ไม่มาก แต่สามารถใช้เป็นจุดแข็งในการเจาะตลาดผู้บริโภคระดับบนได้
รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตลาดต่างประเทศ เช่น ยุโรป สหรัฐฯ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ มีความต้องการข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น เพราะตื่นตัวกับกระแสรักสุขภาพและการปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ของไทยอาศัยการเติบโตโดยธรรมชาติ ไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง ทำให้ไม่มีสารตกค้าง ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.นี้ มีเป้าหมายเดินทางไปประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมากถึง 10 ครั้ง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน และ ซีเรีย วันที่ 4-9 มิ.ย., แอฟริกาใต้ มาดากัสการ์ และ มอริเชียส วันที่ 20-26 มิ.ย., ลิเบีย ไนจีเรีย และ กานา วันที่ 9-15 ก.ค.