นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อวางหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการชุมนุมทางการเงินว่า จากการประชุมได้เห็นชอบขยายวงเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs จาก 5,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท และให้ขยายพื้นที่การให้ความช่วยเพิ่มเติมจากบริเวณแยกราชประสงค์ แต่ให้ครอบคลุมถึงพื้นที่อื่นที่ได้รับความเสียหายด้วย
ทั้งนี้จะได้เสนอหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.วันที่ 25 พ.ค.นี้
นายโสฬส สาครวิศวะ กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า คูณสมบัติของผู้ที่ยื่นความช่วยเหลือดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด และต้องการทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยธนาคารจะให้สินเชื่อในวงเงินสูงสุไม่เกิน 3 ล้านบาท/ราย หรือไม่เกิน 4 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 25 เท่าของค่าเช่า
โดยเบื้องต้น ได้จัดเตรียมวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการที่ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท คิดดอกเบี้ย MLR- 2 % และกรณีที่มีหลักประกันคิดดอกเบี้ย MLR- 3 % รวมทั้งได้ขยายเวลาปลอดชำระเงินต้นจาก 1 ปีแรก เป็น 2 ปีแรก และขยายเวลาในการผ่อนชำระหนี้จาก 5 ปี เป็น 6 ปี
ทั้งนี้หากวงเงินที่เตรียมไว้ไม่พอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ ธนาคารพร้อมขยายวงเงินเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท