นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง และการขอคืนพื้นที่ ได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้แล้ว 0.5% แต่หากรัฐบาลสามารถรักษาเสถียรภาพทางการเมืองให้กลับคืนมาโดยเร็ว จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว
ทั้งนี้ยังเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเป็นตัวเลข 2 หลักในไตรมาส 1/53 แต่ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. อาจต้องมีการทบทวน และยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปี 53 จะขยายตัวเป็นบวกได้ แม้ว่าไทยมีปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ แต่ภาคการเงินของไทย โดยรวมยังมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับไทยมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง มีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่สูงเป็นประวัติการณ์ และฐานะการคลังอยู่ระดับดี ตลาดหุ้นยังแข็งแกร่ง
รมว.คลัง กล่าวในเวทีสัมมนาที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับว่า ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวมากที่สุด โดยภาคการท่องเที่ยว คิดเป็น 6%ของจีดีพี ซึ่งจะได้รับความเสียหายอย่างมากในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีภาพปรากฎผ่านสื่อไปทั่วโลก ซึ่งเป็นผลกระทบเลวร้ายอย่างมากต่อการท่องเที่ยว ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากมีการจ้างงานคิดเป็น 15-20% จากแรงงานทั้งหมด
"มั่นใจได้ว่า ถ้าสามารถรักษาเสถียรภาพในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมาได้ต่อไปนับจากนี้ เมื่อเสถียรภาพทางการเมืองกลับคืนมาในระดับหนึ่ง ก็น่าจะฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว และแม้จะมีความไม่มีเสถียรภาพบ้าง แต่แนวโน้มสำหรับประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง" รมว.คลัง กล่าว
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ในเดือน พ.ย. ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ แต่คาดว่าอาจจะจัดให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด และมีความเป็นไปได้สูงมากที่รัฐบาลชุดนี้จะไม่บริหารประเทศไปจนครบวาระในปี 55