สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรุดลงเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) จากแรงขายทำกำไร โดยนักลงทุนเทขายทองเพื่อนำเงินไปวางมาร์จิ้นในตลาดอื่นๆ ซึ่งรวมถึงตลาดน้ำมันที่มีการเรียกหลักประกันเพิ่ม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดดิ่งลง 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.1% สู่ระดับ 1,176.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,198.20 - 1,166.0 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.
ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนก.ค.ขยับลง 6.4 เซนต์ ปิดที่ 17.651 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.กระโดดขึ้น 11.65 เซนต์ หรือเกือบ 4% ปิดที่ 3.0610 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมเดือนก.ค.ก็ไต่ขึ้น 5.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,501.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ทะยานขึ้น 30.50 ดอลลาร์ หรือ 7.5% ปิดที่ 439.45 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ทองคำเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่และแรงขายทำกำไรตลอดทั้งสัปดาห์ หลังจากที่ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยปิดท้ายสัปดาห์นี้ ราคาทองทรุดลง 4.5% หรือ 56 ดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่ราคาทองปิดลดลง
โดยในระหว่างวัน ราคาทองที่ถูกลงสามารถดึงดูดนักลงทุนที่รู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจให้กลับมาเข้าซื้อทองได้ แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่ราคาทองจะร่วงลงอีกจนถึงช่วงปิดตลาด
กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะเข้าแทรกแซงตลาดเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี รวมถึงการที่รมว.คลังอียูประกาศจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันหนี้ไม่ให้เพิ่มสูงมากไปกว่านี้ และแสดงความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดต่อเศรษฐกิจยุโรป ได้ผลักดันให้เงินยูโรดีดตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งเงินยูโรที่พุ่งขึ้นได้ลดความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย