เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) นับเป็นสัปดาห์แรกในรอบหกสัปดาห์ โดยนักลงทุนกลับเข้าซื้อเงินยูโร เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของยุโรปอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการร่วงลงของสกุลเงินยูโรอันมีสาเหตุมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาค
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.83% ที่ระดับ 1.2569 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2465 ดอลลาร์สหรัฐ และยูโรพุ่งขึ้น 1.25% แตะ 113.04 เยน จากระดับ 111.64 เยน แต่ยูโรอ่อนค่าลง 0.13% แตะ 0.8679 ปอนด์ จากระดับ 0.8690 ปอนด์
ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่า 0.89% แตะที่ 1.4478 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4350 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.41% ที่ระดับ 89.930 เยน จากระดับ 89.560 เยน แต่อ่อนค่าลง 0.26% แตะ 1.1490 ฟรังค์สวิส จากระดับ 1.1520 ฟรังค์สวิส และดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.88% แตะ 1.0608 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0702 ดอลลาร์แคนาดาในวันก่อน
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.79% แตะที่ 0.8301 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.8155 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่า 1.68% แตะที่ 0.6776 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6664 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะเข้าแทรกแซงตลาดเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี รวมถึงการที่รมว.คลังอียูประกาศจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันหนี้ไม่ให้เพิ่มสูงมากไปกว่านี้ และแสดงความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดต่อเศรษฐกิจยุโรป ได้ผลักดันให้เงินยูโรดีดตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้
โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่เยอรมนีออกคำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลสำหรับหุ้นที่ยังไม่มีการกู้ยืมมาก่อน (naked short-selling) ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกและทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินยูโร
อย่างไรก็ดี เงินยูโรเริ่มดีดตัวขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา เนื่องจากมีข่าวลือแพร่สะพัดในตลาดว่า ธนาคารกลางยุโรปจะเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการทุ่มซื้อสกุลเงินยูโร เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของสกุลเงินดังกล่าว
นอกจากนี้ วานนี้ เงินยูโรยังได้ปัจจัยหนุน หลังจากที่รัฐสภาเยอรมนีอนุมัติแผนการให้เยอรมนีมีส่วนเข้าร่วมในแพคเกจเงินกู้วิกฤตยูโรโซน
โดยทั้งสภาล่าง (Bundestag) และสภาสูง (Bundesrat) ของรัฐสภาเยอรมนี ได้ลงคะแนนเสียงอนุมัติงบ 1.48 แสนล้านยูโร (1.82 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เยอรมนีจะสมทบทุนในแผนกู้วิกฤตยูโรโซนวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (9.25 แสนล้านดอลลาร์)