นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) เห็นชอบให้เพิ่มการบริการของสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี เข้าสู่บัญชีบริการควบคุมอีก 1 รายการ โดยจะควบคุมเฉพาะการให้บริการเท่านั้น เพราะราคาก๊าซเอ็นจีวียังอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงพลังงานตามเดิม
พร้อมกันนี้ ยังให้ขยายมาตรการควบคุมสินค้าและบริการ 39 รายการ ที่จะหมดอายุการควบคุมในเดือนก.พ.53 ออกไปอีก 1 ปี เพราะหากปลดออกจากบัญชีควบคุมการทำให้สถานการณ์ราคาปั่นป่วนและกระทบกับประชาชนได้ ส่งผลให้บัญชีควบคุมสินค้าและบริการประจำปี 53 ตามพ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีทั้งสิ้น 40 รายการ แบ่งเป็นสินค้า 38 รายการ และบริการ 2 รายการ จากเดิมที่มี 1 บริการคือ บริการคาราโอเกะเท่านั้น ทั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ใน 1 ปี
"ที่ต้องเพิ่มบริการในปั๊มเอ็นจีวี เป็นเพราะมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าไปใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงก่อนการปรับขึ้นราคาขายก๊าซ มักจะถูกปฏิเสธการให้บริการ โดยอ้างว่าก๊าซหมด หรือใช้หัวจ่ายก๊าซไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ประชาชนได้รับก๊าซน้อยกว่าความเป็นจริง ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุมครม.วันที่ 19 ม.ค.นี้รับทราบต่อไป" นางพรทิวากล่าว
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กกร.ยังได้หารือถึงการนำบริการโรงเรียนกวดวิชา และบริการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนเข้าสู่บัญชีบริการควบคุมเพิ่มเติม เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่ามีการคิดค่าบริการที่สูงเกินจริง ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในหารือกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ส่วนการพิจารณาสินค้าน้ำอัดลมออกจากบัญชีสินค้าที่ต้องติดตามดูแลใน 202 รายการนั้น ที่ประชุม กกร.ให้คงอยู่ในบัญชีตามเดิม เพราะถือเป็นสินค้าที่ประชาชนนิยมบริโภค หากไม่มีการติดตามดูแลผู้บริโภคอาจได้รับความเดือดร้อน เพราะผู้ผลิตจะขึ้นราคาตามใจชอบ ที่สำคัญยังมีผู้ผลิตน้อยราย การแข่งขันไม่สมบูรณ์ และอาจเกิดการผูกขาดและฮั้วราคากันได้