สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ระบุว่า ในไตรมาส 1/53 อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP)มีอัตราเติบโต 12.0% ซึ่งเป็นอัตรการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 15 ปี นับจากไตรมาส 2/38 ที่ GDP เติบโต 12.3%
เนื่องจากในไตรมาส 1/53 การส่งออกเติบโตสูงอย่างชัดเจน การลงทุนภาคเอกชนเติบโต 15.8% การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเติบโต 4% รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว 4.7 ล้านคน เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 28.4%
สภาพัฒน์ แถลงว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/53 ขยายตัวเร่งขึ้นจากที่ขยายตัว 5.9% ในไตรมาส 4/52 เป็นการฟื้นตัวที่เร็วกว่าที่คาด โดยการใช้จ่ายครัวเรือน การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกปรับตัวดีขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับ รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นจากการที่ราคาพืชผลหลักสูงขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเมืองไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4.7 ล้านคน
หากปรับปัจจัยฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวจากไตรมาส 4/52 ราว 3.8% (% QoQ SA) นับเป็นการขยายตัว 4 ไตรมาสติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น และอัตราการว่างงานลดลง
ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในระดับสูงในไตรมาสแรก แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนของการหลุดพ้นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยและชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะมีการขยายตัวสูงในปีนี้ ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนของภาคเอกชน และการบริโภคของประชาชน โดยส่วนหนึ่งมีเม็ดเงินจากภาครัฐในโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เป็นแรงสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เหลือของปี ยังมีปัจจัยเสี่ยงสูง ทั้งจากความไม่แน่นอนของภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและภาวะการเมืองภายในประเทศ ที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่เต็มตามศักยภาพ จึงคงประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 53 ไว้ตามที่ได้ประมาณการเมื่อวันที่ 22 ก.พ.53 ซึ่งคาดว่าอัตราการขยายตัวทั้งปีอยู่ในช่วง 3.5-4.5% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.0-4.0% มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์ สรอ.ขยายตัว 15.5% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 4.1% ของ GDP ลดลงจากการเกินดุลประมาณ 7.7% ของ GDP ในปี 52