นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้จากผลกระทบของเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อจีดีพีไตรมาส 4/53 ให้อยู่ในระดับติดลบได้ โดยจะทำให้จีดีพีทั้งปีอาจจะลดมาราว 1-1.5% จากที่ประมาณการณ์ไว้เดิม
"ผมเชื่อว่าผลเสียจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 มากกว่า อาจจะถึงขนาดติดลบ มันจะดึงให้อัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยทั้งปีต่ำลงกว่าที่เราคาดหมายไว้ อาจจะต่ำลงมา 1-1.5%" นายไตรรงค์ กล่าว
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ยังคงเป้าหมายจีดีพีในปี 53 ไว้ที่ 3.5-4.5%
นายไตรรงค์ คาดการณ์ด้วยว่าการบริโภคในช่วงไตรมาส 4/53 จะลดลงไปจากเดิมอีก 3% การลงทุนลดลง 3% และการท่องเที่ยวลดลง 10% ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลจะทำเพื่อแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในขณะนี้คือการเร่งแก้ไขปัญหาภายในมากกว่าการแก้ไขภาพพจน์ด้านการท่องเที่ยว โดยมูลค่าความเสียหายจากเหตุจลาจลในกรุงเทพฯ สัปดาห์ที่ผ่านมาคาดว่าอยู่ที่ 1-1.5 แสนล้านบาท
"การท่องเที่ยวถึงช่วง Low แล้ว ไม่ต้องไปแก้ภาพพจน์เพราะมันเสียไปแล้ว ต้องทำภายในให้ดี ตอนนี้มันเป็นภาพลวงตา ต้องไปฟื้นฟูในปีถัดไป" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมกันนี้ จะเตรียมหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยจากเหตุการณ์จลาจล
"รัฐบาลควรพิจารณาดูว่า บริษัทต่างๆ ที่เคยประกันภัยจากเหตุการณ์จลาจลไว้กับบริษัทประกันภัยแล้ว ถ้ากรมธรรม์สูงขึ้น รัฐบาลควรรับผิดชอบ หรืออีกทาง รัฐบาลให้บริษัทประกันภัยของรัฐที่มีอยู่รับประกัน แต่ว่ารัฐบาลต้องพร้อมยอมจ่ายเงิน ถ้าเกิดการจลาจลขึ้นอีก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับบริษัทประกันภัยของรัฐ" นายไตรรงค์ กล่าว
นายไตรรงค์ ยังขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ ที่มีบริเวณพื้นที่ว่างเพื่อจัดสรรให้ผู้ค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมสามารถนำสินค้าเข้าไปขายได้ชั่วคราวในระหว่างที่ยังหาสถานจำหน่ายที่ถาวรไม่ได้ ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้ส่วนหนึ่ง