นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบ นี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบสรุปข้อมูลความเสียหายและสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อในพื้นที่ได้ทันที
แนวทางแรกธนาคารจะขยายระยะเวลาการชำระหนี้ โดยให้ผ่อนชำระเงินต้นน้อยลง ตามความสามารถในการชำระหนี้หรือกระแสเงินสด และ แนวทางที่ 2 ให้ลูกค้าปลอดชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน ส่วนแนวทางที่ 3 สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ธนาคารให้ลูกค้าชำระดอกเบี้ยเพียงบางส่วน ที่เหลือจะตั้งแขวนไว้เป็นระยะเวลา 6-12 เดือน รวมทั้งธนาคารยังได้ตั้งวงเงิน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนอีกจำนวนกว่า 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ธนาคารยังได้จัดทำโครงการคืนความสุข ฟื้นความหวัง สร้างรอยยิ้ม โดยจัดพื้นที่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ ถนนสุขุมวิท และสาขาในกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง นำสินค้ามาจำหน่ายเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้นด้วย
อนึ่ง จากการสำรวจในเบื้องต้น ธนาคารมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจำนวนเกือบ 300 ราย วงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงแรม รวมทั้งธุรกิจขายส่งและขายปลีก
ด้านนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ผ่านทางโปรแกรมทางการเงินที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษในหลายรูปแบบ เพื่อช่วยผ่อนปรนภาระทางการเงินและช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้เป็นปกติ ซึ่งลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความเหมาะสม โดยลูกค้าสามารถติดต่อเพื่อใช้โปรแกรมทางการเงินพิเศษนี้ได้ถึงวันที่ 25 มิ.ย.53
ลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ลูกค้าของบริการ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อธุรกิจรายย่อย(SSME) บัตรเครดิต และ สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล(Speedy Cash) กรณีที่เป็นลูกค้าอยู่แล้ว ธนาคารจะลดอัตราดอกเบี้ยให้เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยกรณีสินเชื่อเคหะและสินเชื่อธุรกิจรายย่อย(SSME) ลด 2% จากอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายอยู่ และกรณีของบัตรเครดิตและสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล (Speedy Cash) จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยให้ครึ่งหนึ่ง
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถเลือกเข้าโปรแกรมการเงินพิเศษได้อีก 2 ประเภทแล้วแต่ความเหมาะสม ได้แก่ โปรแกรมที่ 1 การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน (ไม่รวมบัตรเครดิต) หรือ โปรแกรมที่ 2 การเพิ่มวงเงินกู้ โดยสามารถเพิ่มให้สูงสุดเท่ากับมูลค่าของหลักประกัน สำหรับลูกค้าสินเชื่อประเภทมีหลักประกัน
ทั้งนี้ ในกรณีที่ลูกค้าใช้บริการสินเชื่อกับธนาคารหลายประเภท ลูกค้าสามารถเลือกสินเชื่อเพื่อเข้ารับโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งได้ 1 โปรแกรม สำหรับกรณีลูกค้าใหม่ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อจากคุณสมบัติและรายได้ของลูกค้าก่อนเกิดเหตุการณ์โดยลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเช่นเดียวกับลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร ทั้งนี้ ลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อรับบริการได้ที่สาขาของธนาคารที่อยู่ในบริเวณสี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียง
ลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารจะลดดอกเบี้ยให้ 1% เป็นระยะเวลา 3 เดือน และเสริมด้วยโปรแกรมทางการเงินอีก 2 ประเภทตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณีของลูกค้า ได้แก่ โปรแกรมที่ 1 การพักชำระเงินต้นเป็นเวลา 6 เดือน โปรแกรมที่ 2 การพักการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ ธนาคารจะพิจารณาถึงการยืดระยะเวลาการชำระหนี้และการเพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราวเป็นการเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจให้พิเศษอีกด้วย ลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อรับบริการได้ที่สำนักงานธุรกิจที่มีบัญชีสินเชื่ออยู่
นางกรรณิกา กล่าวว่า ธนาคารยังพร้อมเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศตามปกติ ตั้งแต่ วันที่ 25 พ.ค.53 เป็นต้นไป ยกเว้น สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด พลาซ่า และ สาขาบิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งได้รับความเสียหายและอาจต้องย้ายที่ทำการ เบื้องต้นประเมินความเสียหายโดยรวมจากสาขา 11 สาขาและ ตู้เอทีเอ็ม 24 เครื่องที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ธนาคารฯ ได้ระดมกำลังเข้าซ่อมแซมความเสียหายอย่างเร่งด่วนในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดบริการลูกค้าได้ตามปกติ โดยเอกสารสำคัญของลูกค้าทั้งหมดปลอดภัย