ธนาคารเวียดนามประกาศใช้นโยบายทางการเงินที่ยืดหยุ่นควบคู่ไปกับการให้ความระมัดระวังในการรักษาเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจมหภาค เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่ระดับ 6.5% ในปีนี้ รวมถึงเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวได้ไม่เกิน 7%
ธนาคารกลางจะยังคงเดินหน้าใช้บริการทางการเงินที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ และการดำเนินมาตรการซื้อขายในตลาดแบบเปิด (OMO) เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินไหลเข้าให้ได้ตามเป้าหมายการขยายตัวด้านสินเชื่อที่ระดับ 25% และปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบโดยรวมที่ 20% ในปีนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจะมุ่งเน้นที่การกำหนดกรอบการทำงานเพื่อกระตุ้นการบริหารจัดการซื้อขายในตลาดทองคำ ตลาดเงิน และตลาดปริวรรตเงินตรา โดยธนาคารได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศปรับโครงสร้างสินทรัพย์และความมั่นคงด้านฐานเงินทุนเพื่อช่วยให้การปรับระบบเศรษฐกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางเวียดนามจะตรวจสอบแผนกระตุ้นเงินทุนจดทะเบียนของธนาคารพาณิชย์ในประเทศขึ้นที่ระดับ 3 ล้านล้านดอง รวมถึงดูแลด้านการกำหนดมาตรการกำกับดูแลด้านอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ยที่จะช่วยให้การดำเนินงานของระบบธนาคารให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในเวียดนามกล่าวว่า ธนาคารกลางอาจต้องดำเนินการเสริมสร้างสภาพคล่องต่อระบบเศรษฐกิจด้วยการใช้มาตรการด้านการตลาดแบบเปิดเพื่อลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเหลือ 14% จากปัจจุบันนี้ที่ 17%
ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลการค้าและดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนาม โดยหลายฝ่ายคาดว่ายอดขาดดุลการค้าของเวียดนามจะอยู่ที่ 5.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 20.8% ของยอดส่งออกของเวียดนาม ขณะที่คาดว่าดัชนี CPI อาจจะขยายตัวขึ้น 8.76% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.คาดว่าจะกระเตื้องขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้