"ไกธ์เนอร์"แนะยุโรปปฏิรูปนโยบายการคลังเพื่อเลี่ยงซ้ำรอยวิกฤตการเงินกรีซ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 25, 2010 15:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวปฐกถาในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นที่วิทยาลัย Central Party School ในกรุงปักกิ่งของจีน ว่า ยุโรปจำเป็นต้องปรับปรุงนโยบายการคลังเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ต่างๆที่คล้ายคลึงกับปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซ พร้อมระบุว่า ผู้นำยุโรปกำลังเผชิญปัญหาที่ท้าทายในการพยายามกอบกู้ระบบการเงินให้กลับมาฟื้นตัวอย่างยั่งยืนได้อีกครั้ง

ไกธ์เนอร์กล่าวว่า สหภาพยุโรป (อียู) ใช้ค่าเงินยูโรเป็นเงินสกุลเดี่ยวในยูโรโซน แต่การใช้สกุลเงินยูโรภายใต้ความแตกต่างของขอบเขตการกำหนดงบประมาณและการขาดมาตรการแก้ไขความไม่สมดุลภายในกลุ่มนี้เองที่ทำให้ยูโรโซนเผชิญกับภาวะไร้ดุลยภาพ ด้วยเหตุนี้ผู้นำยุโรปจึงควรเร่งปฏิรูปนโยบายการคลังเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์การเงินเหมือนกับที่เกิดขึ้นในกรีซ

ทั้งนี้ ไกธ์เนอร์ย้ำว่า สหรัฐและจีนมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ทั้งสองประเทศมุ่งลงมือปฏิบัติแทนที่จะลังเลหรือระมัดระวังมากจนเกินไป นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์ยังย้ำถึงคำมั่นสัญญาที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณในระยะยาวของสหรัฐ จากปัจจุบันที่ระดับกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์/ปี อันเป็นผลมาจาการที่รัฐนำเงินไปใช้ในการยับยั้งเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวว่า การดำเนินการด้านอื่นๆ อาทิ ประเด็นอัตราดอกเบี้ยและนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ควรคำนึงถึงสถานการณ์ในตลาด และในโอกาสนี้ไกธ์เนอร์ยังได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญๆของสหรัฐ รวมถึงการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการสร้างความเชื่อมั่นว่าจีนจะเปิดตลาดให้กับบริษัทสหรัฐอย่างแท้จริง

รายงานระบุว่า ในระหว่างการปฐกถาครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามไกธ์เนอร์ว่า การที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ตรวจสอบกรณีการฉ้อโกงของบริษัท โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในตลาดการเงินสหรัฐหรือไม่ นายไกธ์เนอร์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว แต่เลี่ยงไปพูดถึงเป้าหมายในการปฏิรูประบบการเงินเพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐเผชิญกับวิกฤตการณ์การเงินในอนาคตแทน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ