นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (MPA NIDA) เปิดเผยว่า ภาครัฐควรหาทางที่เพิ่มงบประมาณายจ่ายในส่วนของงบลงทุนให้มากขึ้น จากกรอบงบประมาณประจำปี 2554 ที่มีวงเงินงบประมาณรายจ่าย 2.07 ล้านล้านบาท
เนื่องจากการจัดทำงบประมาณดังกล่าว ตั้งรายจ่ายประจำสูงถึง 1.66 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 80.3% ของบทั้งหมด และเหลือเป็นงบลงทุนเพียง 3.44 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 16.6% เท่านั้น ในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากงบส่วนนี้รัฐบาลจะนำไปใช้เพื่อการลงทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
รัฐบาลอาจเลือกแนวทางการปรับลดรายจ่ายประจำลงมา ด้วยการปรับลดขนาดของหน่วยงานภาครัฐ หรือยุบบางหน่วยงานเพื่อลดจำนวนข้าราชการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดรายจ่ายประจำให้เหลือเพียง 60% ของงบรายจ่ายประจำปี และนำไปเพิ่มงบเพื่อการลงทุน หรือเลือกใช้การปรับลดภาษีนิติบุคคลธรรมดา เพื่อให้ภาคเอกชนลงทุนแทนภาครัฐ และสามารถสร้างรายได้จากการเก็บภาษีรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาทดแทน รวมถึงการใช้มาตรการภาษีเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม เช่น เก็บภาษีมรดก, ภาษีที่ดิน
ขณะเดียวกัน จากการติดตามกรอบงบประมาณ พบว่าภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพราะจัดสรรงบให้เพียง 0.2% จากงบประมาณทั้งหมด ทั้งที่หลายประเทศให้ความสำคัญมากขึ้น และไทยเองก็ประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทำให้โรงงานกว่า 60 แห่งต้องหยุดกิจการลงชั่วคราวจนกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน
“หวั่นเกรงว่าจากการขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลสิ่งแวดล้อม และขาดงบประมาณในการดูแลอย่างจริงจัง ในอนาคตอาจเกิดปัญหาจนส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจการค้าการลงทุน อย่างเช่นกรณีมาบตาพุดขึ้นมาอีก" นายมนตรี กล่าว