นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าจะขอให้เลื่อนการปิดซ่อมห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวออกไปก่อนเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้ใช้เป็นสถานที่รองรับผู้ประกอบการร้านค้าจากเซ็นทรัลเวิลด์ (CTW) ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้นั้น
ในเบื้องต้นการเจรจากับทาง บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)ผู้บริหารเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าวแล้ว ได้รับความเห็นชอบในหลักการขยายเวลาออกไป แต่ทางเซ็นทรัลฯ ขอให้มีการขยายสัญญาเช่ากับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ด้วย โดยให้ยึดสาระสำคัญอื่น ๆ ตามสัญญาเดิมทุกเงื่อนไข อาทิ อัตราค่าเช่า
ทั้งนี้ สัญญาเดิมที่ทำกับรฟท.ไว้ 20 ปี ขอเพิ่มอีก 1 ปี เพิ่มเป็น 21 ปี อย่างไรก็ตาม ต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการร่วมทุนก่อน พร้อมกันนี้ในส่วนร้านค้าที่ไม่อยากย้ายไปลาดพร้าวอาจมีการจัดเตรียมสถานที่อื่นไว้รองรับ
"ในส่วนของห้างเซ็นทรัล ได้รับการยืนยันว่าจะไม่มีการเลิกจ้างในส่วนของลูกจ้าง วันนี้จะไม่มีการปิด จะเปิดต่ออีก 1 ปี จะไม่มีการทำอะไรให้ดีขึ้น แต่ทางเซ็นทรัลก็ขอไว้สัญญาเดิมที่ทำให้กับรฟท. 20 ปี ก็ขอให้บวกเข้าไปอีก 1 ปี ในสัญญาค่าเช่าเดิม"นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเซ็นทรัลฯ ระบุว่า บริเวณอาคารภายในเซ็นทรัลเวิลด์ที่ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ พร้อมจะเปิดให้บริการตามปกติต่อไป
สำหรับผู้ค้าภายในห้างเซ็นเตอร์วัน คงจะมีการย้ายไปแฟชั่นมอลล์ ฝั่งตรงข้าม โดยขณะนี้เตรียมพื้นที่ไว้รองรับผู้ประกอบการแล้ว โดยจะไม่มีการเก็บค่าเช่าใน 6 เดือน และในวันศุกร์นี้จะมีการพิจารณาเรื่องบริษัทประกันภัย ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก โดยรัฐบาลมีแนวคิดว่าจะให้สินไหมลงทุนช่วยผู้ประกอบการที่ไม่ได้ทำประกัน
นายกอร์ปศักดิ์ ยอมรับว่า ความเสียหายในขณะนี้ส่งผลกระทบชัดเจนต่อภาคการท่องเที่ยว รวมถึงกระทบความเชื่อมั่นการจับจ่ายใช้สอยประชาชนลดลงด้วย แต่ภาคส่งออกอาจถือว่าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่คณะกรรมการชุดอื่นๆ ต่อไป ในการดำเนินการฟื้นฟู แต่ในขณะนี้คณะกรรมการเยียวยาชุดตน ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขความเสียหายได้ทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ทราบตัวเลขผู้ประกอบการที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเปล่า