นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่สร้างความเสียหายต่อประเทศเป็นมูลค่านับแสนล้านบาท แต่ตามขั้นตอนคงต้องมีการหารือกับกระทรวงยุติธรรมก่อน และทางรัฐบาลก็พร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมาย
"รัฐบาลได้ออกมาตาการเยียวยาไปแล้ว แต่ความเสียหายโดยรวมมีมูลค่าเป็นแสนล้าน ซึ่งรัฐบาลคงไม่สามารถช่วยเหลือได้หมด ดังนั้นหากมีช่องทางที่เราจะเรียกค่าเสียหายจากผู้ก่อการร้ายได้เราก็ต้องทำ"นายกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลยังมีเงินคงคลังเพียงพอที่จะนำมาใช้จ่ายชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบและเยียวยาความเดือดร้อน คาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 53 น่าจะมีเงินคงคลังสูงกว่าในระดับที่เคยประเมินไว้ ประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งภาครัฐคงจะนำเงินส่วนนี้มาใช้ในมาตรการเยียวยาต่าง ๆ โดยไม่ได้รวมถึงเงินที่อายัดมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีก่อการร้าย
นายกรณ์ กล่าวว่า เหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการสะดุดตัวครั้งใหญ่ และส่งผลกระทบชัดเจนในไตรมาส 2/53 ซึ่งจะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีดีพี)ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/53
"ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราสะดุดครั้งใหญ่ ซึ่งต้องรอดูในไตรมาสที่ 2 ว่าผลจากการชุมนุมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร แต่คงจะทำให้อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างแน่นอน"นายกรณ์ กล่าว
ส่วนผลกระทบที่มีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น นายกรณ์ ยังมั่นใจว่า ตลาดหุ้นจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้อย่างแน่นอน เพราะหากทุกคนช่วยกันส่งสัญญาณว่าไม่รับกับวิธีการชุมนุมด้วยรูปแบบการก่อจลาจลเหมือนที่ผ่านมา ก็เชื่อว่าจะสามารถเรียกความเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน และนักท่องเที่ยวกลับคืนมาได้
และยืนยันว่าตลอดช่วงที่มีการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิว ไม่ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่กลับเป็นผลดีด้วยซ้ำที่จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์จะไม่กลับมาเป็นเหมือนกับที่คยเกิดขึ้น
"ผมไม่กังวลอะไรเลย ตราบใดที่เรากลับมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนได้ว่า เราไม่เอาด้วยกับวิธีการต่อสู้แบบนี้ ผมมั่นใจว่าทุกอย่างจะกลับมาดีและเป็นปกติอย่างแน่นอน"นายกรณ์ กล่าว
สำหรับแนวทางการฟื้นฟูประเทศจะดำเนินการได้เร็วขนาดไหน ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะต้องร่วมมือกัน และเชื่อว่าประชาชนทุกฝ่ายคงจะไม่ยอมรับวิธีการต่อสู้ทางการเมืองแบบนี้อีกแล้ว เพราะเห็นว่าประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว
นายกรณ์ กล่าวถึงการอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ในวันนี้ว่า เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนจะสามารถชี้แจงการจัดสรรงบประมาณได้ ส่วนข่าวที่ระบุว่านายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรมไม่พอใจการจัดสรรงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็ง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน
แต่ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้ากระทรวงคลังจะเป็นเจ้าภาพเชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบตามโครงการที่รัฐบมนตรีต้องการ เพื่อมาหาข้อสรุปในส่วนของเม็ดเงินที่ยังเหลืออยู่
นายกรณ์ ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้มีการหาผลประโยชน์จากงบประมาณนี้ เพราะรัฐบาลระบบกลั่นกรองที่เป็นระบบและจะไม่ยอมปล่อยหรือเปิดโอกาสให้ใช้ช่องทางการจัดสรรงบประมาณมาเป็นช่องทางหาผลประโยชน์ของนักการเมือง