ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐเริ่มเบนเข็มมาให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจในระดับโลก หลังจากที่วิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มคลี่คลายลง โดยขณะนี้ทางสภาคองเกรสได้เสร็จสิ้นการกำหนดรายละเอียดของแผนยกเครื่องมาตรการกำกับดูแลตลาดเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ท่าทีของไกธ์เนอร์ที่หันมาให้ความสนใจต่อภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกสะท้อนได้จากการเดินทางเยือนยุโรปในวันนี้ ซึ่งเขามีกำหนดเข้าพบกับนายจอร์จ ออสเบิร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ และนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษที่กรุงลอนดอน ก่อนที่จะเดินทางไปยังนครแฟรงก์เฟิร์ตเพื่อเข้าพบกับนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรปเพื่อหารือถึงแผนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินราว 1 ล้านล้านเยน โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งมิให้วิกฤตหนี้สินของกรีซลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ และไกธ์เนอร์จะเข้าพบกับรัฐมนตรีคลังเยอรมนี ที่กรุงเบอร์ลินในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดเงินของสหรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) แสดงความเห็นต่อการเดินทางเยือนยุโรปของรัฐมนตรีคลังสหรัฐว่า ไกธ์เนอร์สามารถแบ่งเวลามาร่วมมือกับผู้นำประเทศอื่นๆเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระดับโลกได้แล้ว หลังจากที่การแก้ปัญหาวิกฤตการเงินในสหรัฐเริ่มเข้ารูปเข้ารอยและกระบวนการปฏิรูปเศรษฐกิจขนานใหญ่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน การเดินทางเยือนยุโรปของไกธ์เนอร์มีขึ้นท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลว่า วิกฤตหนี้สินในยุโรปเป็นภัยคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งเมื่อวานนี้มีการรายงานปัจจัยบ่งชี้ด้านความเสี่ยงของหนี้ภาคเอกชนและหนี้สาธารณะที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน
ทั้งนี้ ไกธ์เนอร์มีกำหนดการเดินทางเยือนยุโรปเป็นเวลา 2 วัน โดยเขาจะเข้าประชุมที่กรุงลอนดอน เบอร์ลิน และแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งการเดินทางเยือนยุโรปครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เขาได้เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนประเทศจีนเมื่อวานนี้ โดยได้เข้าร่วมการเจรจาด้านเศรษฐกิจและกลยุทธ์ระหว่างสหรัฐ-จีนเป็นเวลา 2 วัน