นายเจมส์ พิทชอน กรรมการบริหาร บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย ระบุว่า จากการรวบรวมข้อมูลทางสถิติของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.โดยซีบี ริชาร์ด เอลลิส พบว่าปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังสนามบินทุกแห่งที่บริหารจัดการโดย ทอท.ในเดือน เม.ย.53 มีจำนวน 1,318,606 คน เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน เม.ย.52 ที่มีจำนวน 1,286,119 คน
ด้านตัวเลขผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิลดลง 0.6% เหลือ 1,184,241 คน จากจำนวน 1,190,820 คน เมื่อเดือน เม.ย.52 และลดลง 14.9% หากเปรียบเทียบกับตัวเลขในเดือน เม.ย.51
อย่างไรก็ตาม ปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังสนามบินในภูเก็ตยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีภาวะความตึงเครียดทางการเมืองในกรุงเทพฯ จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังสนามบินในภูเก็ตในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 120,015 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 41.4% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน เม.ย.52 ที่มีจำนวน 84,871 คน และคิดเป็นเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในปี 51
ส่วนจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศที่เดินทางเข้ามายังสนามบินภูเก็ต เพิ่มขึ้น 0.6% คิดเป็น 146,088 คน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเม.ย.52 ที่มีจำนวน 145,209 คน
"เมื่อพิจารณาจากสภาวการณ์การชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ รวมทั้งการปิดสนามบินในยุโรปหลายแห่งที่เป็นผลมาจากปัญหาเถ้าภูเขาไฟ นับว่าตัวเลขในเดือนเมษายนเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ทว่าตัวเลขในเดือนพฤษภาคมน่าจะมีแนวโน้มที่ไม่ดีนัก คำถาม คือ ตัวเลขดังกล่าวจะฟื้นตัวหรือไม่ และใช้เวลานานเท่าไรที่จะฟื้นตัว" นายเจมส์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายหลายประการที่กำลังรออยู่ ไม่เพียงแค่ความเสียหายที่มีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย อันเนื่องมาจากปัญหาความไม่สงบในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ปัญหาภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในยุโรปและสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบกับเงินบาท จะทำให้เกิดผลกระทบบางส่วนต่อภาคธุรกิจที่เป็นตลาดเศรษฐกิจหลักของไทย