ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่ง หลังจีนยืนยันยุโรปยังเป็นตลาดลงทุนหลักของจีน

ข่าวต่างประเทศ Friday May 28, 2010 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) หลังจากจีนยืนยันว่ายุโรปยังคงเป็นตลาดการลงทุนหลักของจีน พร้อมกับปฏิเสธรายงานของไฟแนนเชียล ไทม์ส ที่ระบุว่าจีนกำลังทบทวนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลยุโรป ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนเริ่มเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินยูโร

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.64% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2366 ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.2167 ดอลลาร์ และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.62% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.4598 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4365 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.38% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.060 เยน จากระดับของวันพุธที่ 89.820 เยน แต่ร่วงลง 0.81% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1503 ฟรังค์ จากระดับ1.1597 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 3.86% แตะที่ 0.8526 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.8209 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 3.26% แตะที่ 0.6847 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6631 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินยูโรมากขึ้น หลังจากสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนที่มีมูลค่าสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ออกมาปฏิเสธรายงานของไฟแนนเชียล ไทม์ส ที่ระบุว่า SAFE กำลังทบทวนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลยุโรป พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่ายุโรปจะสามารถพลิกฟื้นสถานะทางการเงินให้กลับมามีเสถียรภาพได้

SAFE ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ว่า "รายงานดังกล่าวของไฟแนนเชียล ไทมส์ ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด สำหรับเราแล้ว ตลาดยุโรปทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ถือเป็นหนึ่งในตลาดการลงทุนหลักของเรา นอกจากนี้ SAFE เชื่อมั่นว่ายุโรปจะสามารถฟื้นฟูเสถียรภาพด้านการเงินและพัฒนาตลาดการเงินให้แข็งแกร่งได้ โดยได้รับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ"

นักวิเคราะห์เชื่อว่า กว่า 70% ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เป็นสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินยูโรและเงินเยน ซึ่งมีการประมาณการว่าสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินยูโรอาจมีอยู่มากกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกปีนี้ว่า จีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวในอัตรา 3% ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ครั้งแรกว่าขยายตัว 3.2% ต่อปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 3.4% ต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ