เซติ อักห์ตาร์ อาซิซ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวว่า ตลาดการเงินของประเทศมีความพร้อมที่จะต้านทานความผันผวนอันมีสาเหตุมาจากวิกฤตหนี้สินในยุโรปได้ เนื่องจากตลาดการเงินของมาเลเซียได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอดสิบปีที่ผ่านมา
วิกฤตการคลังของยุโรปได้จุดชนวนให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าวิกฤตดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชียได้เริ่มถอนมาตรการกระตุ้น เนื่องจากการขยายตัวของภูมิภาคแซงหน้าส่วนอื่นๆของโลก โดยธนาคารกลางมาเลเซียได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งแล้วในปีนี้
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าแบงก์ชาติมาเลเซียยังได้กล่าวถึงค่าเงินริงกิตของมาเลเซียที่มีความเคลื่อนไหวดีที่สุดในเอเชียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโรในปีนี้ โดยไต่ขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และพุ่งขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับยูโร
“เราไม่วิตก ตราบที่สกุลเงินสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ" อาซิซกล่าว "เนื่องด้วยปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจมหภาคของเรายังคงแข็งแกร่งและยืดหยุ่น ความแข็งแกร่งของค่าเงินจึงสะท้อนปัจจัยเหล่านั้น"
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของมาเลเซียในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 10.1% จากปีก่อน ซึ่งสูงสุดในรอบกว่าสิบปี โดยแบงก์ชาติจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมั่นคงต่อไป