กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 1.3% จากเดือนมี.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะขยายตัว 2.5%
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ในเดือนเม.ย.ขยายตัว 19.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ของยอนฮัพ อินโฟแม็กซ์ คาดว่าจะขยายตัว 19.6%
-- กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ค่าแรงโดยเฉลี่ยของบริษัทในญี่ปุ่นที่มีพนักงานตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปปรับตัวสูงขึ้น 1.5% ในเดือนเม.ย. จากปีก่อนหน้านี้ที่ 275,985 เยน ซึ่งทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
-- ฮอนด้า มอเตอร์ โค ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า พนักงาน "ส่วนมาก" ที่โรงงานประกอบรถยนต์ในจีนต้องการหยุดประท้วงและกลับมาทำงานตามปกติ
-- บริษัท บีพี พีแอลซี เตรียมส่งหุ่นยนต์ใต้น้ำลงไปซ่อมแซมท่อน้ำมันที่เกิดการรั่วไหลอย่างเร็วสุดในวันนี้ ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการยุติการรั่วไหลของน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
-- ยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยเสียใจที่พรรคสังคมประชาธิปไตยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากที่นายฮาโตยามะได้สั่งถอนตำแหน่งของนายมิซูโฮ ฟูกิชิมะ ออกจากคณะรัฐมนตรี เนื่องจากนายมิซูโฮปฏิเสธที่จะลงนามเพื่อรับรองข้อตกลงกับสหรัฐ เรื่องการโยกย้ายฐานทัพสหรัฐอยู่ภายในพื้นที่จังหวัดโอกินาว่า ซึ่งการถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลทำให้คะแนนเสียงของพรรคร่วมที่อยู่ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (ดีพีเจ) ในสภาสูงลดลง ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงในเดือนก.ค.นี้
-- ธนาคารกลางเวียดนามได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานประจำเดือนมิ.ย.ไว้ที่ระดับเดิมที่ 8% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งถือเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติอินเดียเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของอินเดียไตรมาส 1 ปี 2553 ขยายตัว 8.6% จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 6.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขการขยายตัวดังกล่าวยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางอินเดียขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกก็ตาม
-- กองกำลังทหารของอิสราเอลได้โจมตีเรือลำเลียงปัจจัยช่วยเหลือของนานาชาติที่กำลังเดินทางไปยังกาซ่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 16 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 330 ราย โดยขบวนเรือลำเลียงปัจจัยดังกล่าวมีด้วยกันทั้งสิ้น 6 ลำ และบรรทุกปัจจัยช่วยเหลือด้านมนุษยชนประมาณ 1 หมื่นตัน รวมทั้งนักเคลื่อนไหวที่พยายามจะเข้าไปยังกาซ่า
-- พายุโซนร้อน "อกาธา" เริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นขณะเคลื่อนตัวอยู่เหนือเทือกเขาในกัวเตมาลา หลังจากที่ความรุนแรงของพายุดังกล่าวได้คร่าชีวิตผู้คนในกัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ และฮอนดูรัส ไปแล้วอย่างน้อย 99 ราย