สำนักงานสถิติแห่งชาติแคนาดารายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกปีนี้ของแคนาดา ขยายตัวในอัตรา 6.1% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี และมากกว่าที่ธนาคารกลางแคนาดาคาดว่าจะขยายตัว 5.8% ต่อปี เพราะได้แรงหนุนจากการขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคการผลิต ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางแคนาดาตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติแคนาดารายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของแคนาดาในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 1.1% ขณะที่ตัวเลขการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยดีดตัวขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน ส่วนยอดส่งออกสินค้าและการบริการ พุ่งขึ้น 2.9% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.4%
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดาจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 0.5% จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% ซึ่งหากเป็นไปตามการคาดการณ์ ก็จะทำให้แคนาดาเป็นประเทศแรกในกลุ่ม G7 ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยนายคาร์นีย์กล่าวว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วเกินคาดของเศรษฐกิจแคนาดาอาจส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2%
เศรษฐกิจแคนาดาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเพราะได้ประโยชน์จากดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีนและอินเดีย โดยแคนาดาเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองน้ำมันดิบขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศรอบนอกตะวันออกกลาง