องค์กรการค้าโลก (WTO) เปิดเผยว่า จีนยังคงใช้กลยุทธ์ระยะยาวในการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อเปิดรับเม็ดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
รายงานการทบทวนนโยบายการค้าของจีนในรอบ 2 ปี บ่งชี้ว่า จีนได้เริ่มใช้นโยบายเปิดตลาดเสรีมาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ และจีนยังคงเห็นถึงความสำคัญของระบบการค้าแบบพหุภาคีอีกทั้งยังแสดงความมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันให้ 153 ชาติสมาชิกของ WTO ฟื้นการเจรจาการค้ารอบโดฮา
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จีนยืนยันที่จะตอบโต้นโยบายกีดกันทางการค้าที่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกถดถอย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังรับมือกับผลกระทบของภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลกด้วยการใช้นโยบายการเงินและการคลังที่ช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะอุปสงค์ภายนอกตกต่ำ รวมถึงเน้นกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศมากขึ้น เพื่อผลักดันการเติบโตของจีดีพี
เขากล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ส่งผลให้จีนมีความอ่อนไหวต่อผลกระทบของภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเกิดขึ้นในปลายปี 2551
"ในปี 2552 ยอดส่งออกของจีนลดลง 16% ขณะที่อัตราการขยายตัวของจีดีพีร่วงลงจากระดับ 9.6% ในปี 2551 มาอยู่ที่ 6.2% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี"
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของจีนโดยรวมในปี 2552 ดีดตัวขึ้น และสามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่ 8.7%
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จีนยังคงเดินหน้าพัฒนากรอบการทำงานและเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากจีนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน