บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับทบทวนแนวโน้มภาคธุรกิจประกันชีวิตในเอเชียแปซิฟิกเป็นมีเสถียรภาพ (stable) จากเดิมเป็นลบ (negative) ซึ่งตรงข้ามกับตลาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีแนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยพื้นฐานความน่าเชื่อถือที่เป็นลบ
เอสแอนด์พีระบุในรายงาน "Asia-Pacific Life Insurers: The Growth Story Continues" ว่า บริษัทประกันชีวิตในเอเชียแปซิฟิกจะมีอนาคตที่สดใส โดยได้รับปัจจัยหนุนจากระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของบริษัท ความต้องการทำประกันที่มีอยู่มาก สภาพคล่องในตลาด และการที่ผู้บริโภคมีความรับรู้ทางการเงินเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เอสแอนด์พีเตือนว่า ภาคธุรกิจนี้ยังคงถูกกระทบกระเทือนได้ง่ายจากความผันผวนด้านการลงทุนและเศรษฐกิจโลก
โดยเอสแอนด์พีได้ทบทวนแนวโน้มภาคธุรกิจประกันชีวิตในฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และประเทศไทย เป็นมีเสถียรภาพ จากที่เคยให้แนวโน้มเชิงลบเมื่อช่วงปลายปี 2551 และต้นปี 2552 ขณะที่คงแนวโน้มเชิงลบให้กับญี่ปุ่น เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระดับเงินกองทุนของบริษัทประกันและการขยายตัวของธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ เอสแอนด์พีได้ปรับทบทวนตลาดประกันชีวิตของเกาหลี และให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ โดยมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในระดับปานกลาง
ขณะที่ แนวโน้มตลาดประกันชีวิตของจีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย และอินเดีย ยังคงมีเสถียรภาพ
ยูนิซ แทน นักวิเคราะห์ด้านความน่าเชื่อถือของเอสแอนด์พีระบุในรายงานว่า ในอนาคต เราเชื่อว่าตลาดประกันชีวิตของเอเชียแปซิฟิกจะยังคงน่าดึงดูด เมื่อพิจารณาจากอัตราความเข้าถึงประกัน (penetration rate) ที่อยู่ในระดับต่ำ และบัญชีความเสี่ยง (risk profiles) ของอุตสาหกรรมที่ค่อยๆดีขึ้น พร้อมกับคาดการณ์ว่า ผลประกอบการทางการเงินของบริษัทต่างๆจะยังคงฟื้นตัวในปี 2553 และ 2554 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตต่อเนื่องของบริษัทประกันในภูมิภาค และการดีดตัวในตลาดการลงทุน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความโน้มเอียงไปในเชิงลบ (negative bias) ต่อสถานะทางเครดิตของบริษัทประกันได้ถูกปรับลดลง เนื่องจากเอสแอนด์พีมองว่า ภาวะเศรษฐกิจและสินเชื่อในเอเชียแปซิฟิกจะดีขึ้นในปีนี้และปีหน้า