บริษัทฟอกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป เตรียมขึ้นเงินเดือนให้พนักงานอย่างน้อย 30% ซึ่งสูงกว่าที่ได้มีการประกาศไปในก่อนหน้านี้ หลังจากเกิดกรณีลูกจ้างพาเหรดฆ่าตัวตายอย่างต่อเนื่องภายในโรงงานรับจ้างผลิตคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือให้แก่บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิ แอปเปิล เดลล์ และฮิวเลตต์-แพคการ์ด
โดยโฆษกของบริษัทหงไห่ พรีซิชัน อินดัสทรี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของฟอกซ์คอนน์ประกาศว่า จะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานเพิ่มเป็น 1,200 หยวน จากปัจจุบันนี้ที่ 900 หยวน (131.77 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งนับเป็นการจ่ายค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอีก 10% จากก่อนหน้านี้ที่หนังสือพิมพ์ดิ อิโคโนมิกส์ เดลี่ รายงานว่า บริษัทจะเตรียมขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน 20%
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในปีนี้มีพนักงานที่โรงงานผลิตสินค้าของหงไห่เสียชีวิตแล้ว 10 ราย ขณะที่จำหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้นายเทอร์รี่ กัว ประธานของฟอกซ์คอนน์เร่งจ้างเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือพนักงาน พร้อมขึงตาข่ายรอบอาคารหอพักภายในโรงงานเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย
ขณะเดียวกัน นายกัวได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่ว่าบริษัทลูกของหงไห่แห่งนี้เป็นโรงงานนรกโดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงงานในเสิ่นเจิ้นเพื่อตรวจตราสภาพการทำงานของพนักงาน
ด้านนักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า รายได้สุทธิของหงไห่ในปีนี้อาจลดลง 7% หากมีการขึ้นเงินเดือนพนักงาน 20% ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ประมาณการไว้ว่าการขึ้นค่าแรง 20% ให้กับพนักงานที่ฟอกซ์คอนน์อาจทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายต่อไตรมาสสูงถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และทำให้ผลกำไรจากการดำเนินงานลดลงราว 10-11% พร้อมกันนี้ซิตี้กรุ๊ป ยังได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ของหงไห่ประจำปีนี้ลง 11%