นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เชื่อมั่นว่ายอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับ 5 แสนล้านบาท แม้ว่าการเกิดเหตุจลาจลที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดที่จะยกเลิกการลงทุนหรือไม่ทำธุรกิจในไทย เพราะยังเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยว่ายังมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการส่งออกการผลิตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีที่ชะลอโครงการบ้างแต่เป็นเพราะมีปัญหาสำหรับขั้นตอนการทำธุรกิจของบริษัทนั้น ๆ มากกว่า
ส่วนจะมีการปรับเป้าบีโอไอในปีนี้ใหม่หรือไม่นั้นต้องขอรอดูช่วง 6 เดือนนี้ก่อน โดยบีโอไอจะเร่งสร้างความเชื่อมั่น ประชาสัมพันธ์ และไปโรดโชว์เป็นรายประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาก็พบว่าหลายประเทศยังเชื่อมั่นในประเทศไทยอยู่
นางอรรชกา กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัท ทาทามอเตอร์ ได้แจ้งยกเลิกกับบีโอไอ ที่จะผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ ในไทย เพราะทาทามอเตอร์ไม่ค่อยมีตลาดรถยนต์ในประเทศ จากข้อกำหนดที่จะต้องผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศให้ได้ 1 แสนคัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า บริษัท โฟล์คสวาเกน อาจจะยกเลิกด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้เข้าไปร่วมทุนกับ บริษัท ซูซูกิ เพื่อผลิตรถยนต์อีโคคาร์แล้ว
ส่วนที่เหลือยังคงเดินหน้าตามปกติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีตลาดในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ขณะที่มิตซูบิชิ จะผลิตได้ตามแผนเดิม คือ เดือนกันยายน และเริ่มจำหน่ายในต้นปี 2555
ทั้งนี้ ในวันนี้บีโอไอ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ อ็อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป เพื่อร่วมกันจัดทำรายงาน The Report : Thailand 2010 ซึ่งเป็นรายงานวิจัยและมีข้อมูลเชิงลึกด้านธุรกิจ โอกาสในการลงทุนในประเทศไทย และอาจรวมถึงด้านการเมืองด้วย เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย โดยคาดว่าจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้ภายในปีนี้