นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารร่วมมือกับองค์กรส่งเสริมร้านอาหารญี่ปุ่นสำนักงานสาขาประเทศไทย(Organization to Promote Japanese Restaurants Abroad: JRO)ให้การสนับสนุนสมาชิกของ JRO ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย เพื่อให้บริการทางการเงินแบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบการ 4 กลุ่มบริการ ได้แก่
บริการด้านเงินทุน (Funding& Borrowing) สำหรับสมาชิกเริ่มต้นธุรกิจ ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ หรือต้องการขยายกิจการ โดยมีสินเชื่อให้เลือกหลายแบบ อาทิ สินเชื่อไม่ต้องแสดงหลักทรัพย์กสิกรไทย (K-Klean Credit) บริการสนับสนุนธุรกิจเริ่มต้นกสิกรไทย (K-SME Start-up Solutions)
บริการสำหรับธุรกรรมรับ-จ่ายเงินประจำวันของผู้ประกอบการ (Operation&Transaction) อาทิ บริการการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ผ่านเครื่อง EDC ของธนาคาร ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งไว้ที่ร้านค้า (Terminal EDC) และแบบพกพา (Mobile EDC) บริการจ่ายเงินเดือนพนักงานผ่านบัญชี กสิกรไทย (K-Payroll Plus) ซึ่งพนักงานที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีกสิกรไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ ต่าง ๆ เช่น ประกันภัยวงเงินสูงสุด 120,000 บาท และสิทธิประโยชน์จากบริการ K-Home Loan เป็นต้น
บริการด้านการออมและการลงทุน (Saving & Investing) สำหรับสมาชิกที่มีเงินสดและต้องการลงทุนในระยะสั้นกับธนาคาร ธนาคารมีบริการให้เลือก คือ อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับบัญชีเงินฝากประจำ หรือ สำหรับสมาชิกที่มีวงเงินสินเชื่อกับกสิกรไทย รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษในบัญชีออมทรัพย์ โดยบวกเพิ่มดอกเบี้ยพิเศษให้อีก 0.25 % ตลอดปี 53
บริการด้านข้อมูล คำปรึกษา และการป้องกันความเสี่ยงต่างๆ (Protection & Information) โดยผู้เชี่ยวชาญจากเครือธนาคารเช่น บริการข้อมูลวิจัยด้านธุรกิจ บริการให้ข้อมูลด้านอัตราแลกเปลี่ยน และการจัดตั้งศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์รับสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ (Japanese Business Information Center: JBI) เพื่อให้ข้อมูลและรับฟังปัญหาด้วยภาษาญี่ปุ่น นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ให้บริการพิเศษเพื่อช่วยส่งเสริมด้านการตลาดแก่สมาชิก JRO โดยการร่วมจัดรายการส่งเสริมการขาย (Co-Promotion) ร่วมกับบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยอีกด้วย
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคนไทยชื่นชอบในรสชาติ และเชื่อว่าอาหารญี่ปุ่นมีผลดีต่อสุขภาพ โดยพบว่าปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดให้บริการในไทยมากกว่า 1,000 แห่ง จาก 500 บริษัท มากเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี และบริหารงานโดยคนไทย โดยคาดการณ์ว่าธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยปี 53 จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 8,000 ล้านบาท มีการเติบโตราว 10-15% ต่อปี และคาดว่าในปี 55 มูลค่าจะมากกว่า 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ JRO เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่จากกระทรวงเกษตรประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบันมีสาขาสำนักงานทั้งหมดกระจายอยู่ใน 14 ประเทศทั่วโลก