นสพ.เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตีส์ นิวส์ รายงานว่า กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ทางการเงินในอนาคต เนื่องจากอัตราหนี้สินของบริษัทพัฒนาอสังหาฯที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นระดับชั้นนำ 13 แห่งมีสัดส่วนสูงเกิน 70% ไปแล้ว ขณะที่สำนักงานประเมินอสังหาฯของจีนระบุว่า การควบคุมตลาดอสังหาฯของรัฐบาลเมื่อเร็วๆนี้จะทำให้ตลาดชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทอสังหาฯร่วงลงกว่า 20% แล้ว นับตั้งแต่ที่รัฐบาลได้นำมาตรการควบคุมเศรษฐกิจระดับมหภาคมาใช้ตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
บริษัท ไชน่า โอเวอร์ซีส์ แลนด์ แอนด์ อินเวสเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ยังสามารถรักษาระดับการขยายตัวอย่างรวดเร็วไว้ได้ และพุ่งแซงบริษัท ไชน่า แวงก์ เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯรายใหญ่สุดของจีนที่จะทะเบียนในตลาดเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด
ทั้งนี้ สินทรัพย์โดยรวมของบริษัทอสังหาฯชั้นนำ 50 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดอยู่ที่ 1.78 ล้านล้านหยวน หรือ 2.61 แสนล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นปีที่แล้ว นับเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนรายได้ของบริษัทเหล่านี้เพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 4.06 แสนล้านหยวน และกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 8.38 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 67.38%