ผลสำรวจล่าสุด ชี้ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ในสิงคโปร์สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินได้เป็นอย่างดี โดยหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทม์รายงานโดยอ้างผลสำรวจผู้ประกอบธุรกิจประจำปีนี้ว่า ระดับผลกำไรของผู้ประกอบการรายใหม่ขยายตัวได้ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และจากจำนวนผู้ทำการสำรวจทั้งสิ้น 1,982 คนมี 22% ที่รายงานว่าบริษัทประสบภาวะขาดทุนในปีงบการเงิน 2552 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวดีขึ้นจากระดับ 23% ของผู้ตอบแบบสอบถาม 1,808 คนในปีงบการเงิน 2551
นอกจากนี้ สัดส่วนของบริษัทที่มีผลกำไรสูงกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 17% ส่วนบริษัทที่มีรายได้สูงกว่า 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ถีบตัวสูงขึ้น 4% จากเมื่อปี 2550 แตะที่ 34% ในปีที่แล้ว โดยกลุ่มธุรกิจที่ป็นแกนนำการขยายตัวของรายได้คือกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจขนส่ง การจัดเก็บสินค้า และการผลิต และหนึ่งใน 2 ของผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่มีรายได้เพิ่มขึ้น กว่า 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจในต่างประเทศ
ปัจจุบันนี้ 25% ของผู้ประกอบการรายใหม่มีรายได้จากตลาดต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 16% ในปี 2551 และการร่วมทุนกับต่างชาติเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีรายได้จากตลาดต่างประเทศกว่า 30% รายงานผลประกอบการรายปีที่สูงกว่า 500,000 สิงคโปร์ เมื่อเทียบกับระดับ 24% ของผู้ประกอบการที่มีไม่มีรายได้จากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่อาจยังไม่รู้สึกผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการเงิน แต่เพื่อเป็นการรับมือกับการแข่งขันทางการตลาดที่พุ่งสูงขึ้น ผู้ประกอบการเหล่านี้จำเป็นต้องเพิ่มการให้ความสนใจไปที่กลยุทธ์ทางการตลาดและการพัฒนาคุณภาพสินค้ามากกว่าที่จะพุ่งเป้าที่การแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว