สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.0% สู่ระดับ 110.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2552 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.0% เนื่องจากผู้ซื้อบ้านใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล
ลอว์เรนซ์ ยุน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ NAR กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนดัชนีการทำสัญญาขายบ้านดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน รวมถึงนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล อัตราดอกเบี้ยกู้จำนองที่อยู่ในระดับต่ำ และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากนี้ ภาครัฐและเอกชนมีแนวโน้มที่จะจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นได้แม้รัฐบาลตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันข้างหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านเดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 225.52 จุด หรือ 2.25% ปิดที่ 10,249.54 จุด และหนุนสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 72.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) ด้วย