นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้เสนอมาตรการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งที่ประชุคณะรัฐมนตรีวานนี้(2 มิ.ย.)ได้มีมีมติเห็นชอบแล้ว ประกอบด้วย
1.กรณีโครงการ 1 ปี ที่ได้รับเงินจัดสรรแล้ว และได้ลงนามในสัญญาภายในวันที่ 21 พ.ค.53 ให้เร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินภายใน วันที่ 31 ธ.ค.53
2.กรณีโครงการ 1 ปี ที่ได้รับเงินจัดสรรแล้วแต่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา ให้เร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินภายในวันที่ 31 ธ.ค.53 หากไม่สามารถดำเนินการในกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอขยายเวลาผ่านรัฐมนตรีเจ้าสังกัดต่อคณะกรรมการเร่งรัดฯ ทั้งนี้จะสามารถขยายเวลาได้ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค.54
3. กรณีโครงการ 1 ปี ที่อยู่ระหว่างการขอรับเงินจัดสรรจากสำนักงบประมาณ ให้เร่งดำเนินการและเบิกจ่ายเงินภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับจัดสรร
4. กรณีโครงการ 1 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินจัดสรรเนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้ เช่น มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ, อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555, โครงการที่ดำเนินในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้, โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการโดยใช้เงินคงเหลือ (Reallocate)นั้น ให้เร่งดำเนินการและเบิกจ่ายเงินภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับจัดสรร สำหรับโครงการที่มีระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 1 ปี ให้เร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้เงิน
รมช.คลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของงบประมาณโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ณ วันที่ 28 พ.ค.53 จากวงเงินกู้รอบแรก 199,960 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 81,663 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.9% ของวงเงินที่ได้จัดสรร 170,446 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้รอบที่ 2 จำนวน 149,999 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายจำนวน 66,873 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.5% ของวงเงินที่จัดสรรแล้ว จำนวน 127,381 ล้านบาท