"บีพี"ส่อเค้าขายทรัพย์สิน-หุ้นบ่อน้ำมันอ่าวพรูโด หลังปัญหาน้ำมันรั่วส่งผลบริษัทสูญเงินมหาศาล

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 3, 2010 14:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดั๊กลาส โอเบอร์ ซีอีโอบริษัทปิโตรเลียม แอนด์ รีซอร์สเซส คอร์ป ในเมืองบัลติมอร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนน้ำมันที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐ เชื่อว่า บริษัทบีพีอาจต้องขายทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุดบางส่วน รวมถึงการขายหุ้นในบ่อน้ำมันที่อ่าวพรูโดในรัฐอลาสก้า เพื่อนำเงินมาเป็นทุนในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก และเพื่อใช้ในการสู้คดีความทางกฎหมาย เนื่องจากเหตุการณ์น้ำมันที่รั่วไหลครั้งนี้ส่งผลให้เกิดหายนะทางระบบนิเวศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

โอเบอร์คาดว่า บีพีจะขายสินทรัพย์บางส่วน และอาจขายหุ้น 26% ในบ่อน้ำมันที่อ่าวพรูโด ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทพลังงานหลายแห่งทั่วโลกให้ความสนใจ ได้แก่ บริษัทไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลีย คอร์ป, อ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลีย คอร์ป และเฮสส์ คอร์ป แต่คาดว่าบีพีจะไม่สามารถนำเงินที่ระดมได้จากการขายทรัพย์สินเหล่านั้นมาใช้ในการขยายการผลิตหรือเพิ่มแหล่งสำรองพลังงานได้ เพราะบีพีต้องเตรียมเงินจำนวนมากไว้ใช้จ่ายใช้การแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก

มูลค่าทางตลาดของบีพีลดลงไปแล้วถึง 34% นับตั้งแต่เกิดระเบิดที่แท่นขุดเจาะน้ำมันเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้คนงานของบีพีเสียชีวิต 11 คน อีกทั้งทำให้แท่นขุดเจาะมูลค่า 365 ล้านดอลลาร์ต้องจมลง ส่งผลให้น้ำมันจำนวนมากรั่วลงสู่อ่าวเม็กซิโก โดยจนถึงขณะนี้ บีพีได้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในการอุดรอยรั่วและขจัดคราบน้ำมันออกจากมหาสมุทร

ด้านนายจิอานนา เบิร์น อดีตเทรดเดอร์น้ำมันดิบของบีพี และผู้ก่อตั้งบริษัทบรู๊คเชียร์ แอดไวซอรี แอนด์ รีเสิร์ช ในรัฐอิลลินอยส์ กล่าวว่า มูลค่าการขายทรัพย์สินของบีพีอาจมีมูลค่าสูงมาก แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประมาณการว่าความเสียหายที่เกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบในครั้งนี้มีมูลค่ามากเท่าใด นอกจากนี้ นายเบิร์นมองว่า ผู้ที่จะเข้ามาซื้อทรัพย์สินของบีพีอาจต้องคิดหนัก เพราะเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้ถือเป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และจำเป็นต้องใช้เวลานับสิบปีจึงจะสามารถกอบกู้ความน่าเชื่อถือกลับมาได้

ทั้งนี้ บีพีซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่สุดในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ กำลังเผชิญกับการสอบสวนทางในทางอาญาและทางแพ่งจากรัฐบาลสหรัฐ หลังจากแท่นขุดเจาะ Deepwater Horizon ของบริษัทเกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้เกิดรูรั่วปล่อยน้ำมันไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโกหลายล้านแกลลอน โดยหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐประมาณการว่าน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงสู่ท้องทะเลในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 12,000 - 19,000 บาร์เรลต่อวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ