กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงาน "มหกรรมเครื่องจักรกลไทย" โชว์ศักยภาพการผลิตและความก้าวหน้าของเครื่องจักรกลที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ พร้อมสาธิตการทำงาน ระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย.53 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าว เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพการผลิต และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลที่ผลิตได้ภายในประเทศ เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการในสาขาที่เกี่ยวข้องหันมาใช้เครื่องจักรกลที่ผลิตได้เองในประเทศทดแทนการนำเข้า
ทั้งนี้ไทยมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าดังกล่าวเฉลี่ยปีละ 450,000 ล้านบาท นับเป็นรายการสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำมันดิบ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนเป็นกลไกช่วยสนับสนุนและเป็นแรงผลักดันให้ผู้ผลิตเครื่องจักรกลไทยมีกำลังใจในการคิดค้นและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเครื่องจักรกลของตนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมหลัก 3 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนการแสดงเครื่องจักรกลพร้อมสาธิตการทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับข้าว ซึ่งภาคเอกชนได้นำเครื่องจักรกลมาแสดงอย่างครบวงจร, การสัมมนาวิชาการและการจัดนิทรรศการออกคูหาของหน่วยงานราชการและเอกชนที่สนับสนุนและเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล รวมทั้งการให้คำปรึกษาในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนการขอใช้บริการด้านสินเชื่อต่างๆ
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ประสิทธิภาพของเครื่องจักรกลไทยหลายประเภทเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายจากนานาประเทศ เช่น เครื่องจักรกลการเกษตร, เครื่องจักรกลแปรรูปอาหาร, เครื่องจักรกลบรรจุภัณฑ์ และเครื่องจักรกลพื้นฐาน เป็นต้น และเป็นรายการสินค้าส่งออกสำคัญที่มีลู่ทางแจ่มใส โดยมีมูลค่าส่งออกประมาณปีละ 250,000 ล้านบาท ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มประเทศอาเซียนใหม่ เช่น กัมพูชา, ลาว, พม่า, เวียดนาม จัดเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของเครื่องจักรกลไทย เนื่องจากในไตรมาสแรกของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 8,700 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"กระทรวงพาณิชย์หวังว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักในศักยภาพของเครื่องจักรกลไทย และหันมาใช้เครื่องจักรกลที่ไทยผลิตได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าเครื่องจักรกลจากต่างประเทศ รวมทั้งเป็นแรงผลักดันให้ผู้ผลิตพัฒนาคิดค้นเครื่องจักรกลที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแห่งใหม่ และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น" นายยรรยง กล่าว