การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เตรียมเสนอกระทรวงพลังงานปรับแผนยืดอายุการใช้งานโรงไฟฟ้าพระนครใต้-บางปะกง ออกไปจากเดิมอีก 5 ปี เพื่อรองรับประมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"กฟผ.เตรียมแผนปรับยืดอายุโรงไฟฟ้าที่กำลังจะหมดอายุ หรือ รีไทร์ ออกไปอีกประมาณ 5 ปี โดยเบื้องต้นจะเสนอให้ยืดอายุโรงไฟฟ้าพระนครใต้ และบางประกง ที่มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ออกไปก่อน เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศที่มีแนวโน้มสูงสุด" นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าว
เนื่องจากปีนี้มีอัตราการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศปรับสูงสุดในรอบ 10 ปี หรือประมาณ 24,000 เมกะวัตต์ เทียบจากช่วงเดียวกันของปี 52 ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่ 22,000 เมกะวัตต์ และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะปรับตัวดีขึ้น
ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวว่า กฟผ.จะเสนอให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ให้เร็วขึ้น 6-12 เดือน เพราะโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่(IPP) จะถูกชะลอไป 2 โครงการ จากทั้งหมด 4 โครงการ ซึ่งทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในอนาคตลดลง ทั้งนี้การเร่งรัดการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่จะช่วยรองรับการใช้ไฟฟ้าในโรงงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เริ่มมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในปีนี้
โดยนี้ปีนี้ถือว่าปริมาณน้ำน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนหลายแห่งขณะนี้เข้าสู่ขั้นวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำน้อยมาก ส่งผลให้ขณะนี้เริ่มกระทบต่อระบบการผลิตไฟฟ้าในบางช่วงที่ต้องมีการดึงน้ำไปใช้ในการระบายความร้อนของโรงไฟฟ้า แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้การผลิตไฟฟ้าหยุดชะงัก เนื่องจากปัจจุบันการใช้พลังงานน้ำในการผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้การปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในขณะนี้ กฟผ.เน้นเรื่องการบริโภคเท่านั้นไม่ปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร