นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เชื่อว่า นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นจะบังคับใช้นโยบายต่างๆที่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและรายได้ และหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นให้คึกคักขึ้น
หัวหน้าฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดว่า นายคังจะมุ่งเน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่านายยูคิโอะ ฮาโตยาะ นายกรัฐมนตรีคนก่อน ที่มุ่งเน้นแต่ในประเด็นความมั่นคงทางสังคม และคาดว่านายคังจะใช้นโยบายที่ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะด้วยการเพิ่มวินัยด้านการคลัง
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค มองว่าหลังจากพรรคดีพีเจก้าวขึ้นมาเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น นโยบายหลักๆของนายฮาโตยามะมุ่งเน้นแต่เรื่องการสร้างความมั่นคงทางสังคม ผิดกับนายคังที่ยึดมั่นในนโยบายสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง ซึ่งเชื่อว่าการที่นายคังก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น จะเปิดทางให้นายคังบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและรายได้ และหนุนภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นให้คึกคักขึ้น
นอกจากนี้ เจพีมอร์แกนคาดว่า นายคังจะใช้นโยบายลดตัวเลขหนี้สาธารณะของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เกือบ 200% ของตัวเลขจีดีพี และเป็นตัวเลขหนี้สาธารณะสูงสุดในบรรดา 30 ชาติสมาชิกกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD)
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 4.9% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 4 ไตรมาส เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมส่งออก รวมทั้งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม จีดีพีในปีงบประมาณ 2552 ของญี่ปุ่น หดตัวลง 1.9%
ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของตัวเลขจีดีพี ดีดตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาสแรกปีนี้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 1.0% ส่วนตัวเลขการลงทุนในภาคสาธารณะพุ่งขึ้น 1.7%