ครม.ศก.อนุมัตินำรายจ่ายซื้อทัวร์หักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 1.2 หมื่นบาท/คน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 7, 2010 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)วันนี้อนุมัติมาตรการทางภาษีเพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง

ในส่วนของมาตรการทางภาษี จะให้ผู้ชำระภาษีเงินได้สามารถนำรายจ่ายจากการซื้อทัวร์มาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้ไม่เกิน 1.2 หมื่นบาท/คน จากเดิมที่กระทรวงการคลังเสนอมาที่ 1.5 หมื่นบาท/คน แต่ไม่ได้ให้นำค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองมาหักค่าลดหย่อนได้ เนื่องจากเกรงจะมีปัญหาเกี่ยวกับหลักฐานค่าใข้จ่ายที่จะนำมาแสดง

ขณะที่ในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรม ครม.เศรษฐกิจได้ขยายเวลาในการยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของธุรกิจโรงแรมต่อไปจนถึงสิ้นปี 54

ส่วนมาตรการทางภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม เช่น สนามกอล์ฟ ตลอดจนภาคธุรกิจอื่นๆ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังกลับไปพิจารณาความเหมาะสม เนื่องจากเห็นว่ามาตรการภาษีบางประเภทที่เสนอมาเกี่ยวข้องกับภาษีท้องถิ่น ซึ่งหากมีการพิจารณาไปแล้ว อาจจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างภาษีทั้งระบบได้ จึงให้นำกลับไปทบทวนแล้วนำกลับมาเสนอใหม่

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจจำนวน 360 ล้านบาท สำหรับใช้ส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวในต่างประเทศด้วย ซึ่งการที่ ครม.เศรษฐกิจอนุมัติเฉพาะการทำตลาดในประเทศเป็นหลักก่อน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ได้มีการของบทั้งหมด 1.6 พันล้านบาทเพื่อทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับงบประมาณในส่วนที่เหลือ ครม.เศรษฐิกจพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์ในประเทศเริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว และเมื่อกลับสู่ภาวะปกติ จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาเอง

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจยังได้อนุมัติสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยให้คงวงเงินช่วยเหลือไว้ตามเดิมที่ 5 พันล้านบาท แต่มีการขยายวงเงินกู้ยืมสูงสุดต่อรายเป็น 5 ล้านบาท จากเดิมที่ให้แค่ 3 ล้านบาท รวมทั้งขยายเวลาการปลอดชำระคืนเงินต้นเป็น 2 ปี จากเดิม 1 ปี และขยายระยะเวลาการกู้ยืมเป็นไม่เกิน 8 ปี จากเดิมไม่เกิน 5 ปี ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนั้น ถ้ากู้เงินไม่เกิน 1 ล้านบาท จะไม่คิดดอกเบี้ย แต่ถ้ากู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท จะต้องเสียดอกเบี้ย 3% และต้องมีผู้ค้ำประกัน

ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่เป็นร้านค้าราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียง ยังคงวงเงินไว้ที่ 5 พันล้านบาทเท่าเดิม จากที่กระทรวงการคลังได้ขอเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท รวมเป็น 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก ครม.เศรษฐกิจให้เหตุผลว่า ขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการมายื่นขอสินเชื่อต่อธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME BANK) เพียง 2,314 ล้านบาท ยังมีวงเงินเหลืออยู่อีกมากพอที่ผู้ประกอบการรายอื่นจะเข้ามาขอสินเชื่อ และเมื่อวงเงินใกล้เต็มจำนวนแล้ว ครม.จะมีการพิจารณาเพิ่มเติมวงเงินต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ