นายฮุสเซน อัล-ชาห์ริสทานี รัฐมนตรีน้ำมันอิรักเปิดเผยว่า อุปทานน้ำมันในประเทศที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านราคาน้ำมัน
รมว.น้ำมันอิรักกล่าวในการประชุมด้านน้ำมันและก๊าซในภูมิภาคว่า "เราคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ทั่วโลกจะมีความต้องการน้ำมันเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่มีทรัพยากรธรรมชาติประเภทอื่นที่จะนำมาใช้แทนน้ำมันได้ และน้ำมันจากอิรักจะตอบสนองความต้องการน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นนี้ โดยเฉพาะที่มาจากกลุ่มประเทศในเอเชีย"
เขาคาดว่ากำลังการผลิตน้ำมันในอิรักจะพุ่งสูงกว่า 4 เท่าแตะที่ 12 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2560 ขณะที่อิรักได้ทำสัญญาทางพลังงานกับบริษัทน้ำมันต่างชาติหลายแห่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รมว.น้ำมันอิรักได้แสดงความเห็นต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ร่วงลงจากระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยชี้ว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว
"เราจะผลิตน้ำมันตามที่ตลาดต้องการ และเชื่อว่าผลผลิตน้ำมันของอิรักจะช่วยป้องกันความผันผวนของราคาน้ำมัน และช่วยสร้างความมั่นใจต่อผลผลิตน้ำมันในระยะยาวสำหรับประเทศที่ต้องพึ่งพากันใช้พลังงาน" รมว.น้ำมันอิรัก เสริม
ทั้งนี้ น้ำมันเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับอิรักถึงเกือบ 95% โดยรัฐบาลได้ทำข้อตกลงด้านพลังงาน 12 ฉบับกับบริษัทน้ำมันต่างชาติเพื่อกระตุ้นกำลังการผลิตน้ำมันในอนาคต และคาดว่าการลงทุนในบ่อน้ำมัน 11 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 1.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น จะช่วยให้อิรักสามารถผลิตน้ำมันรวมกันได้กว่า 60 ล้านบาร์เรลในอีก 20 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การที่อิรักยังไม่มีกฎหมายควบคุมการดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงการก่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ และความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลอิรักชุดต่อไปยังคงเป็นปัญหาต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมพลังงานในประเทศดังกล่าว