นายกฯอังกฤษชี้ปัญหายอดขาดดุลของประเทศร้ายแรงกว่าที่คิด เตือนกระทบทุกคนในประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday June 7, 2010 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ชี้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศรุนแรงกว่าที่คาดคิดกันไว้ พร้อมกับเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ ชี้วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวอังกฤษทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายคาเมรอนแถลงเรื่องสภาพเศรษฐกิจของประเทศในวันนี้ ก่อนที่จะมีการประกาศงบประมาณฉุกเฉินในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลและหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นถือเป็นประเด็นเร่งด่วนที่สุดที่อังกฤษกำลังเผชิญ พร้อมกับระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจของอังกฤษเลวร้ายกว่าที่คิด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีการลดทอนรายจ่ายที่อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับทุกๆคนในประเทศ

"ขนาดของปัญหาใหญ่กว่าที่เราคิด ดังนั้นผลที่อาจตามมาจึงร้ายแรงกว่าที่เราหวั่นเกรงกัน" คาเมรอนกล่าว "วิธีการที่เราจะนำมาใช้เพื่อจัดการกับเรื่องเหล่านี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจของเรา สังคมของเรา หรืออันที่จริง วิถีชีวิตของเราโดยรวมทั้งหมด และผลกระทบดังกล่าวจะอยู่กับเราไปอีกนาน ซึ่งบางทีอาจจะนานเป็นสิบๆปี"

โดยนายคาเมรอนชี้ว่า รายจ่ายด้านสวัสดิการสังคมและรายจ่ายสำหรับข้าราชการเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับลดการใช้จ่าย

ทั้งนี้ รัฐบาลผสมที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตยมีกำหนดที่จะประกาศงบประมาณฉุกเฉินในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะเป็นการให้รายละเอียดของแผนลดรายจ่ายสาธารณะลงเป็นมูลค่ามหาศาล หลังจากที่เคยออกมาประกาศก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะลดรายจ่ายลงให้ได้ 6.2 พันล้านปอนด์ในปีงบประมาณนี้ เพื่อจัดการกับยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงถึง 1.56 แสนล้านปอนด์ (2.25 แสนล้านดอลลาร์)

รัฐบาลผสมระบุว่าจำเป็นต้องดำเนินการหั่นรายจ่าย เพื่อแสดงให้เห็นว่าอังกฤษมีความจริงจังในการลดยอดขาดดุล แม้การลดรายจ่ายจะขัดกับแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเสรีประชาธิปไตย และขัดกับพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นอดีตรัฐบาลอังกฤษ ที่ย้ำมาโดยตลอดว่า การหั่นรายจ่ายเร็วเกินไปจะส่งผลลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ

นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า หากไม่มีการแก้ปัญหาเหล่านี้ ความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจอังกฤษก็จะย่ำแย่ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และทำให้รัฐต้องนำเงินภาษีจำนวนมากขึ้นไปจ่ายหนี้และดอกเบี้ย แทนที่จะนำไปใช้จ่ายในภาคสาธารณะ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ