สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า สายการบินทั่วโลกจะทำกำไรได้ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคมว่า ธุรกิจการบินโลกจะขาดทุน 2.8 พันล้านในปี 2553 ซึ่งหากเป็นไปตามที่ IATA คาดการณ์ ก็จะถือเป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ที่อุตสาหกรรมการบินโลกสามารถทำกำไรได้
IATA ซึ่งเป็นตัวแทนของสายการบิน 230 แห่งระบุว่า แนวโน้มสำหรับอุตสาหกรรมสายการบินปรับตัวดีขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียและสหรัฐอเมริกาช่วยกระตุ้นความต้องการเดินทาง และการลดความจุของเครื่องบินเมื่อปีที่แล้วก็ช่วยหนุนให้ราคาตั๋วเพิ่มสูงขึ้น
โจวานนี บิซิญานี ซีอีโอของ IATA กล่าวในแถลงการณ์ที่มีการนำเสนอในการประชุมประจำปีขององค์กรว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินได้เร็วกว่าที่มีการคาดการณ์กันเอาไว้มาก ซึ่งสายการบินต่างๆก็กำลังได้รับอานิสงส์จากปริมาณการเดินทางที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งและกำลังจะผลักดันให้อุตสาหกรรมกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ กำไรส่วนใหญ่จะมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์ และ 1.9 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ แต่ยุโรปจะยังคงเป็นภูมิภาคเดียวที่ขาดทุนในปีนี้ ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากปัญหาเถ้าภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าการคาดการณ์ก่อนที่จะเกิดเหตุภูเขาไฟปะทุอยู่ 600 ล้านดอลลาร์
สำหรับรายได้รวมของสายการบินทั่วโลก คาดว่าจะอยู่ที่ 5.45 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 13% จากระดับ 4.83 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2552 แต่ยังต่ำกว่าระดับ 5.64 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2551
IATA กล่าวว่า จะต้องใช้เวลา 2 ปี อุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลกจึงจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุด เมื่อพิจารณาจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียปีนี้ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 7% และ 3.3% ในสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้ IATA ระบุว่า อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีจึงจะสามารถฟื้นตัวได้
IATA ยังคาดการณ์ด้วยว่า ปริมาณการเดินทางทางอากาศ (Passenger Traffic) จะขยายตัว 7.1% ในปี 2553 และ ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Cargo Traffic) จะขยายตัวถึง 18.5% ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ในครั้งก่อนที่ 5.6% และ 12% ตามลำดับ
ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงจะคิดเป็น 26% ของต้นทุนการดำเนินงานในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 23% ในปี 2552