สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 23 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาการเงินในฮังการีจะส่งผลให้วิกฤตหนี้สินในยุโรปทวีความรุนแรงขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 23.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,240.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,212.10 - 1,246.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนก.ค.ปิดที่ 18.162 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 86.30 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนก.ค.ดิ่งลง 5.35 เซนต์ ปิดที่ 2.766 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนก.ค.ปิดที่ 1,517.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 8.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 430.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 65 เซนต์
นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากนายมิฮาลี วาร์กา หัวหน้าคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฮังการี เปิดเผยว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับกรีซ
ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลฮังการีได้ออกมาในช่วงหลังว่า ฮังการีไม่มีความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ แต่ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กล่าวว่า การที่รัฐบาลฮังการีออกมายืนยันแบบกลับลำในครั้งนี้ ถือเป็นการแก้ข่าว และยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะช่วยลดความวิตกกังวลของนักลงทุน จนกว่านายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์แบน ของฮังการี จะบังคับใช้มาตรการเข้มงวดในการลดยอดขาดดุลงบประมาณตามข้อกำหนดของอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ด้านนายจีออร์จี มาโทลซี รมว.เศรษฐกิจของฮังการี เปิดเผยว่า ฮังการีจำเป็นต้องประหยัดงบประมาณราว 1.0-1.5% ของตัวเลขจีดีพี
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด ในโลก เข้าถือครองทองแท่งที่ระดับ 1,286.359 ตันเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ลดลง 3.48 ตัน จากระดับของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ 1,289.839 ตัน