ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ ขณะนักลงทุนหวั่นปัญหาหนี้ลามถึงฮังการี

ข่าวต่างประเทศ Tuesday June 8, 2010 07:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปทั่วยุโรป หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮังการีออกมายอมรับว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญปัญหาการเงินแบบเดียวกับกรีซ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.43% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.1921 ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.1973 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ขยับขึ้น 0.06% แตะที่ 1.4468 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4460 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.630 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 91.910 เยน และดีดขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.1631 ฟรังค์ จากระดับ 1.1627 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.49% แตะที่ 0.8109 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.8232 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.76% แตะที่ 0.6585 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6703 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินยูโร อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้ยุโรปมีแนวโน้มลุกลามในวงกว้าง โดยความกังวลครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อนายมิฮาลี วาร์กา หัวหน้าคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฮังการี เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับกรีซ

ต่อมาเมื่อวันจันทร์ รัฐบาลฮังการีได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ฮังการีไม่มีความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่นายวาร์กาได้พยายามลดกระแสความวิตกกังวลดังกล่าวด้วยการออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลฮังการีสามารถปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณให้เหลือเพียง 3.8% ของตัวเลขจีดีพีตามคำแนะนำของอียูและไอเอ็มเอฟ ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่ายและการจัดเก็บรายได้ ซึ่งถือเป็นการแถลงที่สวนทางกับที่นายมิฮาลีเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของฮังการีอาจมีอยู่มากกว่า 7% ของจีดีพี

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นายกรัฐมนตรีฮังการีจัดการประชุมฉุกเฉินของคณะรัฐมนตรีทันที เพื่อปรับเป้าหมายงบประมาณ หลังจากการแสดงความคิดเห็นของนายวาร์กาได้สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมทั้งสร้างความประหลาดใจให้กับนายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟด้วย

คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของฮังการีจะพุ่งขึ้นเป็น 4.1% ของตัวเลขจีดีพี เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ย 7.2% ของประเทศอื่นๆในกลุ่มอียู และเทียบกับ 9.3% ของกรีซ นอกจากนี้ คาดว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลฮังการีจะเพิ่มเป็น 79% เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยของอียูที่ 80% และเทียบกับ 125% ของกรีซ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 508,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐเท่านั้น

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ส่วนวันพฤหัสดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย.และข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลประจำเดือนพ.ค.

วันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ