เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC News ที่วอชิงตัน ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวเร็วพอที่จะทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลง และคาดว่า อัตราว่างงานจะยังเคลื่อนไหวที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง พร้อมระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) จากระดับต่ำสุดในปัจจุบันที่ 0 - 0.25% ก่อนที่การจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ยอมรับว่า ทั้งเขาและคณะกรรมการเฟดคนอื่นๆยังไม่รู้ว่าการจ้างงานที่ฟื้นตัวเต็มที่นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด
เบอร์นันเก้กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกถดถอยในระดับลึกมากในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้อัตราการฟื้นตัวในขณะนี้อยู่ในระดับปานกลาง แม้คณะกรรมการกำหนดนโยบายในยุโรปให้คำมั่นว่าจะพยายามช่วยเหลือกรีซให้พ้นจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม
ขณะเดียวกันเบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่การจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวเต็มที่ แต่เขาไม่ทราบว่ากระบวนการฟื้นตัวในลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด ส่วนระบบการเงินในสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่สถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้ก็มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ
"อัตราว่างงานในสหรัฐยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าประชาชนจำนวนมากจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเงิน" เบอร์นันเก้กล่าว
การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้สอดคล้องกับคณะกรรมการเฟดคนอื่นๆอีกหลายคน โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ผู้ว่าการเฟดสาขาแอตแลนต้ากล่าวว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแม้อัตราว่างงานในสหรัฐอยู่ในระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้ก็ตาม ขณะที่นายเอริค โรเซนเกร็น ผู้ว่าการเฟดสาขาบอสตันกล่าวว่า การตรึงดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมหากการจ้างงานในสหรัฐฟื้นตัวเต็มที่