รมช.คลังสหรัฐแนะประเทศเอเชียกระตุ้นดีมานด์ในประเทศ จี้จีนปรับขึ้นเงินหยวน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday June 8, 2010 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายลาเอล เบรนนาร์ด รมช.คลังสหรัฐกล่าวในที่ประชุมที่ซานฟรานซิสโกในวันนี้ว่า ประเทศเอเชียจำเป็นต้องทุ่มเทความพยายามมากขึ้นในการกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ โดยเฉพาะจีนที่ต้องเพิ่มความพยายามมากเป็นพิเศษ และระบุว่าจีนจำเป็นต้องปรับเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

"ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในยุโรปยิ่งทำให้ประเทศกลุ่ม G20 จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อหนุนเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น หลายประเทศในเอเชียมียอดเกินดุลการค้ามูลค่ามหาศาล ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์สินค้าจากต่างประเทศสูงมา ดังนั้น เอเชียจึงจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศให้สูงขึ้น" เบรนนาร์ดกล่าว

ทั้งนี้ เบรนนาร์ดกล่าวว่า ความแข็งแกร่งของดีมานด์ในเอเชียช่วยให้การค้าทั่วโลกมีความสมดุล นอกจากนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนปรับตัวลดลงเนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจจีนขยายตัวในไตรมาสแรก

นายเบรนนาร์ด ซึ่งเป็นอดีตรองผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติในสมัยที่บิล คลินตัน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ยังกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางจีนจำเป็นต้องปรับเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น รวมทั้งให้บริการทางสังคมและผลิตภัณฑ์ทางการเงินแก่ประชาชนให้มากขึ้น นอกจากนี้ จีนจำเป็นต้องผ่อนปรนกฎข้อบังคับในอุตสาหกรรมด้านบริการ ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐมองว่าการที่จีนตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวน/ดอลลาร์ ทำให้บริษัทจีนมีข้อได้เปรียบด้านการค้าอย่างไม่เป็นธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้คณะทำงานของบารัค โอบามา เพิ่มแรงกดดันให้จีนปรับเปลี่ยนนโยบายเงินหยวน

ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดและยอดขาดดุลการค้าที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในสหรัฐ ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐแอสงความกังวลว่าหลายประเทศในเอเชียและยุโรป อาจยังไม่พยายามมากพอที่จะช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นของนายเบร็นนาร์ด มีความสอดคล้องกับที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐได้กล่าวไว้ในที่ประชุม G20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ