บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 5 เดือนแรกปีนี้ทะลุ 1.7 แสนล้านบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 8, 2010 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ค.53) มีจำนวน 507 โครงการ ขยายตัว 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 172,600 ล้านบาท เฉพาะเดือน พ.ค.มีมูลค่าขอรับส่งเสริมสูงถึง 39,700 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ(FDI: Foreign Direct Investment) ขยายตัวทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน

"เฉพาะเดือนพฤษภาคมมีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนถึงจำนวน 107 โครงการ ซึ่งมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเดือนที่ผ่านมา และมีมูลค่าเงินลงทุนถึง 39,700 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศยังเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทย" นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ กล่าว

ภาพรวมการลงทุนในช่วง 5 เดือนของปีนี้มีบริษัททั้งไทยและจากต่างประเทศต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเป็นจำนวน 507 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 172,600 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น 47.8% และมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 7.3%

สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการขอรับส่งเสริมมากที่สุด ได้แก่ กิจการบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 139 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 81,000 ล้านบาท อันดับสอง ได้แก่ กิจการผลิตโลหะ เครื่องจักร ยานยนต์และชิ้นส่วน จำนวน 105 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 21,900 ล้านบาท อันดับสามกิจการเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร จำนวน 84 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 18,300 ล้านบาท

ขณะที่ FDI มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 306 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 86,281 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าเงินลงทุนปรับเพิ่มขึ้น 108% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

โดยกิจการที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนสูงสุด เป็นกิจการกลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน เซรามิก และเหมืองแร่ มีมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 24,561 ล้านบาท รองลงมา เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่าเงินลงทุน 18,940.7 ล้านบาท กิจการบริการ และสาธารณูปโภค มูลค่าเงินลงทุน 13,165 ล้านบาท ตามลำดับ

กลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดยังเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น มีจำนวน 120 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 33,038 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 92% รองลงมาคือนักลงทุนจากประเทศสิงคโปร์มีจำนวน 32 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 7,689 ล้านบาท อันดับสามนักลงทุนจีนมีจำนวน 12 โครงการมูลค่าเงินลงทุน 6,473 ล้านบาท ตามด้วยฮ่องกง 11 โครงการ เงินลงทุน 2,693 ล้านบาท และออสเตรเลีย 9 โครงการ มูลค่า 2,091 ล้านบาท เยอรมนี 14 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1,463 ล้านบาท เป็นต้น

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ บีโอไอจึงมีแผนจะเดินทางไปชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศ(โรดโชว์) หวังสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกำหนดจัดงาน"นายกรัฐมนตรีพบนักลงทุน" ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อชี้แจงให้นักลงทุนเข้าใจถึงทิศทางที่รัฐบาลจะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม โดยจะมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมกว่า 1,300 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ