นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นชอบตามการเสนอของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในเรื่องการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งที่ขณะนี้พบว่ายังมีปัญหาความล่าช้า ไม่ว่าจะมาจากการไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้, การเปิดประมูลไม่ได้เนื่องจากมีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว รวมทั้งล่าช้าเพราะปัญหาการชุมนุมทางการเมือง
กรณีที่ 1 หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งที่ได้ลงนามในสัญญาไปแล้ว ให้หน่วยงานนั้นเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.53
กรณีที่ 2 หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรเงินแล้วแต่ยังไม่สามารถลงนามได้นั้น ให้เร่งลงนามให้เสร็จภายใน 30 ก.ค.53 และให้เร่งเบิกจ่ายเงินโดยเร็วตามกำหนดสัญญา
กรณีที่ 3 หน่วยงานที่ขอรับการจัดสรรเงินแล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ให้หน่วยงานนั้นเร่งลงนามและเบิกจ่ายงบประมาณภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับจัดสรรจากสำนักงบประมาณ
กรณีที่ 4 หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินในโครงการแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรเงิน อันเนื่องจากเป็นโครงการที่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด, โครงการที่อยู่ในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือโครงการที่ขออนุมัติใช้เงินคงเหลือนั้น ให้หน่วยงานเร่งจัดสรรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ค.53
กรณีที่ 5 โครงการที่มีอายุเกินกว่า 1 ปี ครม.เห็นชอบให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จตามแผนการปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัด