นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้มีมติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 2090 หรือถนนธนะรัชต์ ระหว่างกม.2 ถึง กม.10 ต่อไป แต่ให้กรมทางหลวงและกรมป่าไม้ไปจัดทำแผนฟื้นฟูระบบนิเวศหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ เช่น การปลูกต้นไม้ และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน ซึ่งจะดำเนินการเพิ่มเติมจากแผนที่กรมทางหลวงจะปลูกต้นไม้ทดแทนประมาณ 2,000-3,000 ต้น
ส่วนการดำเนินโครงการขยายทางหลวงต่อไปอีก 11 กม. คือตั้งแต่ กม.10+100- กม.21 ซึ่งกรมทางหลวงของบประมาณปี 2554 ไว้แล้วนั้น ให้ยกเลิกไปก่อน
นอกจากนั้น ที่ประชุมครม. ยังแต่งตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการดำเนินโครงการที่ผ่านมาว่าถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าการดำเนินโครงการที่ผ่านมาถูกต้อง และไม่ได้หละหลวม
"เมื่อโครงการขยายถนนแล้วเสร็จ ก็จะทำการฟื้นฟูปรับภูมิทัศน์ให้เกิดความสมดุลระหว่างถนนใหม่กับสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่เดิม และจากกรณีการดำเนินโครงการนี้ทำให้กระทรวงคมนาคมมีอุทาหรณ์ในการดำเนินโครงการต่อไป และได้มีคำสั่งให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทพิจารณาแนวทางการปลูกต้นไม้ และการรักษาต้นไม้เก่าบริเวณเขตทาง โดยคำนึงถึงอนาคตหากต้องตัดต้นไม้ดังกล่าวจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ด้วย" นายโสภณ กล่าว
นายโสภณ ยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินโครงการขยายถนนเส้นทางอื่นว่า ที่ประชุมให้กระทรวงคมนาคมปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยเส้นทางใดที่ผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตลุ่มน้ำ เขตป่าชายเลน ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ส่วนเส้นทางที่อยู่นอกพื้นที่ก็ให้ปฏิบัติตามระเบียบสิ่งแวดล้อมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ โดยไม่จำเป็นต้องทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เพราะจะทำให้การดำเนินโครงการล่าช้า และต้องใช้งบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท
ด้านแหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า รมว.คมนาคมชึ้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าปัญหาในเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อโครงการอื่นๆในลักษณะเดียวกัน โดยเกรงว่าอาจจะส่งผลทำให้มีการชะลอโครงการในเส้นทางอื่นๆต่อไปด้วย
"ปัญหาในเรื่องนี้ที่น่าเป็นห่วง เพราะมีหลายโครงการของกรมทางหลวงที่มีลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ มีโปรเจคที่ได้รับงบประมาณไปแล้ว เช่นที่แม่สอด จ.ตาก ที่ห้วยยอด จ.ตรัง ถ้าหากไม่มีการชึ้แจงต่อสาธารณชนและหากมีการนำไปเทียบเคียงที่อื่น ท่านกลัวว่าการตัดสินใจในกรณีนี้ไม่รอบคอบ อาจชะลอโครงการอื่นๆด้วย"แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ นายโสภณ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าการขยายถนนทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางกรมทางหลวงมีการขยายจริงเพียง 4 เลนเท่านั้น ไม่ใช่ขยายไป 8 เลน ตามข่าวที่มีการเสนอก่อนหน้านี้
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เสนอให้รัฐบาลสอบถามความเห็นประชาชนเจ้าของพื้นที่จริงมากกว่าที่จะฟังความเห็นจากกลุ่มนายทุนหรือผู้ที่ไปปลูกที่พักที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เท่านั้น
ส่วนนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ชี้แจงในเรื่องผลการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมว่าคงจะใช้เวลาศึกษาในเรื่องนี้ประมาณ 1-2 เดือนก็คงจะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้มีการศึกษาเรื่องนี้โดยยึดหลักของคณะกรรมสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
ทั้งนี้ บรรยากาศในการพิจารณาเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และใช้เวลาหารือเรื่องนี้กว่า 40 นาที ทั้งนี้ก่อนการประชุมครม.ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียก รมว.คมนาคม และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหารือเป็นการส่วนตัว ก่อนนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมครม.