จีนเรียกร้องให้กลุ่มประเทศในเอเชียเพิ่มความไว้วางใจและประสานความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น หลังจากที่เอเชียได้ผ่านพ้นวิกฤตการเงินโลก ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการร่วมมือกันเพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในเอเชีย
นายไต๋ ปิงกว๋อ มนตรีแห่งรัฐของจีนกล่าวแถลงการณ์ในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย (The Conference on Interaction and Confidence Building Measures in Asia: CICA) ครั้งที่ 3 ณ นครอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี โดยชี้ถึงความสำคัญของการประชุม CICA ที่ควรใช้เป็นเวทีในการสร้างบรรยากาศความร่วมมือที่ดีในเอเชีย รวมถึงในภูมิภาคอื่นๆ ผ่านกลไกการแลกเปลี่ยนและให้ความร่วมมือระหว่างกัน
"ความร่วมมือและไว้เนื้อเชื่อใจกันจะเป็นปัจจัยที่สร้างประโยชน์และตอบสนองความจำเป็นพื้นฐานของทุกประเทศ" ไต๋ กล่าวในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาที่เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ เอเชีย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่ได้มีโอกาสขยายตัวและมีทางเลือกมากมายในการให้ความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้หารือถึงประเด็นสำคัญ รวมถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคง ซึ่งการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ รวมถึงกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนยังคงเป็นภารกิจที่ยากลำบากและใช้เวลานาน
นอกจากนี้ นายไต๋เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกของ CICA ร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนา และส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าในเอเชีย พร้อมทั้งระบุว่า "การพัฒนาคือรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความสุขและสันติภาพของประชาชนทุกคนในภูมิภาคเอเชีย"
ปัจจุบัน ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่ 2 ใน 3 เป็นกลุ่มประเทศที่ยากจน ดังนั้น ทุกประเทศในเอเชียควรกำหนดนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน รวมถึงให้ความร่วมมือที่ส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ตลอดจนกระชับความร่วมมือด้านนโยบายทางเศรษฐกิจและแสวงหาโอกาสความก้าวหน้าและพัฒนาศักยภาพของเอเชียมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายไต๋กล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่มประเทศในเอเชียควรร่วมกันทำงานเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันและเพื่อกระตุ้นความก้าวหน้าในเอเชีย ที่สำคัญเราควรให้ความร่วมมือกันอย่างจริงใจ ภายใต้เจตนาที่ดีต่อกัน รวมถึงเปิดใจหารือกันในทุกๆ เรื่อง และยอมรับการอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองของประชาชนต่างเชื้อชาติ ศาสนา พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าผ่านการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน"